เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

รองโฆษก ตร. เผย ตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต นัดญาติสาววัย 24 เหยื่อ “รถปอร์เช่” พุ่งชนดับ พร้อมผู้ต้องหา และตัวแทนบริษัทประกันภัย สอบปากคำและเจรจาไกล่เกลี่ยเยี่ยวยาค่าสินไหม พร้อมตั้งข้อหาคนขับฐานประมาท เฉี่ยวชนผู้อื่นถึงแก่ความตาย

เมื่อวันที่ 18 พ.ย. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณี รถยนต์ ยี่ห้อ ปอร์เช่ ซิ่งชนสาว 24 ดับ แฉคนขับไม่สนใจ ในพื้นที่ สภ.ปากคลองรังสิต ว่า ได้รับรายงานจาก สภ.ปากคลองรังสิต ว่าเมื่อวันที่ 16 พ.ย. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 03.10 น. ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถเฉี่ยวชนกัน ที่บริเวณถนน รพช. ม.6 ต.หลักหก อ.เมือง จ.ปทุมธานี

พนักงานสอบสวนจึงเดินทางไปตรวจที่กิดเหตุ เมื่อไปถึงพบรถยนต์ ยี่ห้อปอร์เช่ ทะเบียน ษณ 86 กรุงเทพมหานคร ผู้ขับขี่ชื่อ นายธีรเทพ ดุรงค์ อายุ 29 ปี ชาว อ.เมือง จ.ปทุมธานี เฉี่ยวชนกันกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่น รีแบล ทะเบียน 6กต8251 กรุงเทพมหานคร ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ชื่อ นายวริศ ศรีลาชัยมณีกุล อายุ 31 ปี ชาว อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี และผู้โดยสารซ้อนท้าย ชื่อ น.ส.อันธิกา ทูลไธสง อายุ 24 ปี ชาวกรุงเทพมหานคร เป็นเหตุให้ น.ส.อันธิกาได้รับบาดเจ็บ จึงนำตัวส่ง รพ.ปทุมธานี และเสียชีวิตในเวลาต่อมา พนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว

ต่อมา ในวันที่ 17 พ.ย. พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาแก่ นายธีรเทพ ดุรงค์ศักดิ์ ในความผิดฐาน “ขับรถประมาท เฉี่ยวชนทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถึงแก่ความตาย” โดยในขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ในระหว่างได้รวบรวมพยานหลักฐาน อาทิ รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ ผลตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชน ผลการตรวจสถานที่เกิดเหตุ จากกองพิสูจน์หลักฐาน

รอง โฆษก ตร. กล่าวต่อว่า ในวันนี้ 18 พ.ย. เวลา 16.00 น. พนักงานสอบสวนนัดผู้ต้องหาญาติผู้เสียชีวิตและตัวแทนบริษัทประกันภัย เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม และเจรจาไกล่เกลี่ย เยี่ยวยาค่าสินไหมในเบื้องต้น

ทั้งนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กำชับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ ด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว สิ้นกระแสความในทุกประเด็น โดยอาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และพยานหลักฐานที่ชี้ให้เห็นถึงการกระทำความผิดของผู้ต้องหาหรือความเชื่อมโยงต่างๆ เป็นสำคัญ ดำเนินการด้วยความโปร่งใสและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ที่สำคัญต้องสามารถตอบคำถาม ข้อสงสัยของสังคมได้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความไว้วางใจในการอำนวยความยุติธรรมให้กับพี่น้องประชาชน

ด้าน นายณัฐวุฒิ (สงวนนามสกุล) ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. วันที่ 16 พ.ย. ตนได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหวบริเวณหน้าบ้าน จึงวิ่งออกมาดูพบรถจักรยานยนต์จอดล้มอยู่ริมทางใกล้รถจักรยานยนต์มีผู้หญิงกับผู้ชายนอนอยู่ 2 คน ผู้ชายนอนร้องขอความช่วยเหลือ อยู่ส่วนผู้หญิงนอนนิ่งไม่ได้สติ ห่างกันประมาณ 20 เมตร พบรถปอร์เช่จอดนิ่งล้อรถหลุดออกจากรถไปไกลหลายเมตร สภาพด้านหน้าขวามีรอยชน

จากนั้น ตนจึงรีบวิ่งไปดูคนเจ็บที่นอนร้องขอความช่วยเหลืออยู่ ช่วยโทรศัพท์เรียกญาติของผู้บาดเจ็บมาที่เกิดเหตุ ส่วนคนขับรถปอร์เช่ไม่ยอมมาช่วยคนเจ็บเลย ยืนอยู่แต่ตรงรถตัวเอง แถมยังเรียกเพื่อนให้มารับและขับรถพาไปซื้อของกินที่ร้านสะดวกซื้อแถวนั้นอีก ทำให้คนที่มายืนดูเหตุการณ์ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่ารวยแต่ไม่มีน้ำใจ แทนที่จะมาดูคนเจ็บ ตนเดินไปใกล้ๆ คนขับรถปอร์เช่ เหมือนจะได้กลิ่นแอลกอฮอล์อย่างแรง ส่วนสาเหตุการชนดูจากร่องรอยแล้ว น่าจะเกิดจากรถปอร์เช่ข้ามเลนมาชนรถจักรยานยนต์

ขณะที่ นายธนกฤต ธัญญธนภัท พ่อผู้เสียชีวิต กล่าวว่า มีลูกเพียงคนเดียวลูกสาวเปิดร้านอาหารกับแฟน เป็นเสาหลักของครอบครัว ต้องมาเสียลูกไปด้วยเหตุการณ์แบบนี้รู้สึกเสียใจมากๆ ตอนนี้รู้สึกโกรธว่าทำไมผู้ก่อเหตุไม่เคยมาดูแลลูกตัวเองเลยสักครั้ง แม้แต่วันรดน้ำศพ ก็ยังไม่มาขอขมาศพ ตนต้องเป็นฝ่ายโทรไปบอกอาการของลูกเองอยู่ตลอดเวลา

“รู้สึกไม่สบายใจในการทำหน้าที่ของตำรวจ สภ.ปากคลองรังสิต เพราะวันเกิดเหตุก็ไม่มีการตรวจวัดแอลกอฮอล์ผู้ก่อเหตุเลย ตำรวจอ้างว่าผู้ก่อเหตุไม่มีกลิ่นเหล้า ไม่จำเป็นต้องตรวจ และยังปิดห้องคุยกันระหว่างตำรวจ/ผู้ก่อเหตุ/ประกันรถยนต์อีก ไม่อนุญาตให้เราเข้าไปฟัง อยากได้รับความเป็นธรรม อยากให้ตำรวจทำคดีแบบตรงมาตรงไป” นายธนกฤต กล่าว