เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณี น้องโฟล์ค อดีตนักศึกษาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จ.เชียงใหม่ พร้อมกับผู้ปกครองเข้าแจ้งความที่ สภ.แม่โจ้ ให้เอาผิดกับรุ่นพี่หลายคนที่จัดกิจกรรมรับน้องนอกมหาวิทยาลัย ที่เรียกกันว่า “7 วันอันตราย” หลังถูกรุ่นพี่ใช้ชกต่อยจนได้รับบาดเจ็บเป็นแผลฟกช้ำในขณะทำกิจกรรม ตามข่าวที่นำเสนอไปแล้ว

ล่าสุด ดร.สุดเขต สกุลทอง ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ พากลุ่มนักศึกษารุ่นพี่ 6 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดยตำรวจใช้เวลาสอบสวนนานกว่า 2 ชั่วโมง ก่อนที่ พ.ต.อ.ณฐภณ แก้วกำเนิด ผกก.สภ.แม่โจ้ ได้ออกมาเปิดเผยว่า หลังสอบปากคำรุ่นพี่แล้วทั้งหมดประมาณ 10 คน ในที่สุดรุ่นพี่รายหนึ่ง ได้ยอมรับสารภาพแล้วว่าลงมือทำร้ายรุ่นน้อง แต่ที่ผ่านมายังไม่ยอมรับเพราะกลัวส่งผลกระทบกับการเรียน และชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย หลังรับสารภาพ พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ พร้อมสั่งปรับที่โรงพัก แต่ตำรวจยังไม่เปิดเผยอัตราเปรียบเทียบปรับ

พ.ต.อ.ณฐภณ กล่าวว่า หลังจากผู้กระทำยอมรับผิดและมีการเปรียบเทียบปรับ ถือว่าเรื่องนี้จบลงด้วยดี ซึ่งทางผู้ปกครองก็พอใจ ขณะที่ทางมหาวิทยาลัยก็ได้ขอโทษครอบครัวของน้องโฟล์ค รับปากว่าจะควบคุมการรับน้องให้ดีกว่านี้

ด้าน ดร.สุดเขต กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยมีการรับน้องสืบทอดมานานกว่า 85 ปี เพื่อเสริมสร้างความรักและความสามัคคีระหว่างรุ่นพี่รุ่นน้อง อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้ยอมรับว่าเป็นความผิดพลาดที่เกิดขึ้น โดยรุ่นพี่ที่จัดกิจกรรมก็ยังเป็นวัยรุ่น อาจมีความพลั้งพลาดไปบ้างและทางมหาวิทยาลัยก็ต้องขอโทษกับความพลั้งพลาดที่เกิดขึ้น เหตุที่เกิดขึ้นและเป็นกระแสสังคม ทางมหาวิทยาลัยขอน้อมรับและจะนำไปเป็นบทเรียนในการปรับระบบการบริหารจัดการให้รัดกุมมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้เยียวยาด้วยการชดเชยเงินค่าเทอมที่น้องโฟล์คได้จ่ายมาแล้วประมาณ 30,000 บาท รวมทั้งเสนอทุนเรียนฟรี 4 ปี ในคณะเดิม ส่วนจะเรียนต่อคณะเดิมหรือต้องการเปลี่ยนคณะก็อยู่ที่การตัดสินใจของน้องโฟล์ค

ด้าน นางลลิตภัทร ปินทีโย อายุ 43 ปี แม่ของน้องโฟล์คพอใจที่มีคนออกมาแสดงความรับผิดชอบยอมรับผิด และ ทางครอบครัวก็ไม่ติดใจอะไร แต่ขอให้ทางมหาวิทยาลัยเพิ่มมาตรการในการรับน้องให้อยู่ในกฏระเบียบมากขึ้นสำหรับนักศึกษาใหม่รุ่นต่อๆ ไป ส่วนข้อเสนอของทางมหาวิทยาลัย น้องโฟล์คคงไม่กลับไปเรียนอีกแล้ว และ ตั้งใจจะไปสอบตำรวจแทน.