ผู้สื่อข่าวได้รับรายงาน เกิดเหตุคนร้ายบุกเขาชิงทรัพย์ร้านขายของชำ ใช้ของแข็งตียายวัย 74 ปีเสียชีวิตคาร้าน ขณะที่คุณตานอนติดเตียงวัย 84 ปี ถูกตีบาดเจ็บ ที่ ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง จ.ราชบุรี
เวลา 16.30 น. วันนี้ ( 17 ต.ค. 62 ) พ.ต.อ.ณรงค์เดช ศักดิ์สมบูรณ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.ราชบุรี พ.ต.อ.อภิชาติ พุทธบุญ ผู้กำกับการ สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.ท.สุประพันธ์ โพธิ์ภิรมย์ รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน สภ.เมืองราชบุรี พ.ต.ท.พรชัย ตรีอุดม สารวัตรเวร สภ.เมืองราชบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดราชบุรี แพทย์เวรโรงพยาบาลราชบุรี และมูลนิธิปฐมบรมราชานุสรณ์ราชบุรี ตรวจสอบที่เกิดเหตุ หลังได้รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าตายที่บริเวณร้านขายของชำเลขที่ 10 หมู่ 14 ต.เกาะพลับพลา อ.เมือง
โดยที่เกิดเหตุเป็นร้านขายของชำตั้งอยู่ริมถนนสายเขางู-เบิกไพร ภายในร้าน มีร่องรอยการรื้อค้นทรัพย์สินจนกระจุยกระจาย และพบรอยเลือดจำนวนมาก ที่ด้านหลังร้านพบศพนางลำยอง พานสร้อย อายุ 74 ปี เจ้าของร้าน นอนเสียชีวิตอยู่ภายในห้อง ด้านหลังร้านดังกล่าว ที่บริเวณศรีษะและตามลำตัวมีร่องรอยถูกตีด้วยของแข็งจนมีคราบเลือดกระจายไปทั่วบริเวณ ใกล้กันพบครกหิน และสากหินที่แตกหักเปื้อนเลือดตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนบนเตียงนอนที่อยู่ใกล้กันพบคราบเลือดจำนวนมาก ทราบว่าเป็นของนายล้วน พานสร้อย อายุ 84 ปี ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงอยู่ถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้แล้วอาการสาหัส
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจเบื้องต้น ทราบข้อมูลจากเด็กชายวัย 9 ปีคนหนึ่ง ที่เข้าไปซื้อลูกอมภายในร้านเห็นเป็นคนแรก เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังว่า ก่อนที่จะไปพบศพได้เดินเข้าไปเลือกซื้อลูกอมที่อยู่ภายในร้าน และเรียกยายเพื่อจะจ่ายเงิน แต่ไม่มีเสียงตอบ จึงเดินเลยเข้าไปหลังร้านก็ไปพบนายล้วนนอนเลือดท่วมตัวอยู่ ด้วยความตกใจจึงได้วิ่งออกมาเรียกพี่สาวและญาติ ๆ ที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกับร้านให้มาดู ก็พบว่านอกจากคุณตาจะได้รับบาดเจ็บแล้ว ยังเห็นคุณยายนอนจมกองเลือดด้วย จึงคาดว่าทั้งสองคนน่าจะถูกทำร้าย จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบดังกล่าว
ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะทำทีเข้ามาเพื่อขอซื้อของและเมื่อเห็นยายอยู่คนเดียวจึงได้ลงมือทำร้ายเพื่อจะชิงทรัพย์ แต่ยายนั้นต่อสู้และวิ่งเข้าไปหลังร้าน จึงได้ตามไปทำร้ายจนตาย ส่วนคุณตาที่นอนเป็นผู้ป่วยติดเตียงเห็นเหตุการณ์จึงถูกคนร้ายเข้าไปทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสไปด้วย ซึ่งในช่วงนั้นมีฝนตกหนักจึงทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากสองตายาย
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เก็บหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางถนนสายดังกล่าว เพื่อติดตามตัวฆาตกรโหดรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป