ข้าราชการกระทรวงแรงงานยังโดน เมียผู้ประกันตนโวย ถูกเจ้าหน้าที่ สปส.อมเงินออมชราภาพของสามี ที่ยื่นลาออกขอคืนเงิน ตั้งแต่ปี 2559 ชะล่าใจรอจนข้ามปีกลับเงียบหาย ตามสืบจนรู้ตัวคนอมเงินอยู่สำนักงานพื้นที่ 3 ดินแดง เจ้าตัวบีบน้ำตารับสารภาพทำมาแล้ว 4 ราย เลขา สปส.ยอมรับ พนักงานทุจริตจริง ตั้งกรรมการสอบเอาผิดทางวินัยร้ายแรงถึงไล่ออก แต่ยังอยู่ในขั้นสอบสวน ยืนยันพบทุจริตแห่งเดียว ขอให้มั่นใจ สปส.มีระบบป้องกันเงินผู้ประกันตนเข้มงวด
ผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 3 (กรณีบำนาญชราภาพ) ถูกคนในสำนักงานประกันสังคม (สปส.) ยักย้ายถ่ายเทเงินที่ควรส่งคืนผู้ประกันตน ไปเป็นของตัวเองรายนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 17 ธ.ค. หลังได้รับการร้องเรียนจากข้าราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน รายหนึ่ง ว่า จากกรณีที่สำนักงานประกันสังคม (สปส.) เปิดให้คนอายุ 60 ปี ขึ้นสมัครเป็นผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 เพื่อสะสมเงินออมชราภาพ ตั้งแต่เดือน ธ.ค.2556-ธ.ค.2557 และให้จ่ายสะสมย้อนหลังได้ถึงเดือน พ.ค.2555 นายธาตรี เอี่ยมอำภา สามีของตนอายุกว่า 60 ปี จึงสมัครทางเลือกที่ 3 ได้รับสิทธิประโยชน์คุ้มครองกรณีชราภาพ โดยจ่ายเดือนละ 100 บาท รัฐจ่ายสมทบอีก 100 บาท มีเงินเก็บสะสมอยู่เกือบ 1 หมื่นบาท แต่ต่อมา สปส.ได้ยุบเงินออมชราภาพ ให้ย้ายไปรวมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) หากไม่ย้ายก็ให้สิทธิลาออกรับเงินคืน จึงได้ยื่นขอเงินคืนเมื่อวันที่ 3 ส.ค.2559 แต่รอจนจะสิ้นปี 2560 ไม่ได้เงินคืน จึงออกติดตามจาก สปส. จนรู้ว่ามีคนเบิกเงินส่วนนี้ไปใช้แล้ว และเป็นพนักงานของ สปส.เองที่เอาไป
ข้าราชการรายเดิมยังเปิดเผยด้วยว่า ตอนลาออกจากการเป็นผู้ประกันตนดังกล่าว ได้นำหลักฐานของสามี พร้อมด้วยหน้าสมุดบัญชีเงินฝากไปยื่นเรื่องที่ สปส.พื้นที่ 3 ดินแดง ในกระทรวงแรงงาน เพื่อให้โอนเงินเข้าบัญชี แต่เจ้าหน้าที่กลับบอกให้รอรับธนาณัติตามที่อยู่จะต้องส่งไปที่ไปรษณีย์หลักสี่ แต่ก็เงียบหายไป ตนเป็นข้าราชการ เห็นว่า สปส.เป็นหน่วยงานราชการเหมือนกัน จึงชะล่าใจไม่ติดตามเงิน เพิ่งจะมาทวงถามจาก สปส. เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จนได้หมายเลขธนาณัติไปสอบถามจากไปรษณีย์หลักสี่ จนรู้ว่าธนาณัติถูกส่งเมื่อวันที่ 17 ส.ค.2559 แต่กลับส่งไปที่ไปรษณีย์ดินแดง และเพียง 1 วัน ในวันที่ 18 ส.ค.2559 มีคนมารับไป จึงสงสัยจะเป็นไปได้อย่างไร เพราะคนอื่นจะรับแทนต้องมีหนังสือมอบอำนาจ แต่มันก็เป็นไปแล้ว จึงอยากรู้ว่ามีอะไรมากกว่านี้อีกหรือไม่ จากที่ได้พบกับ นางเซี่ยมกี่ นิลทองคำ ผู้อำนวยการสำนักงานประกันสังคม กรุงเทพมหานคร พื้นที่ 3 ได้บอกให้ไปแจ้งความ แต่ตน อยากดูก่อนว่าจะมีการดำเนินการเรื่องนี้อย่างไร
“จริงๆไม่อยากพูดเรื่องนี้ เงินก็ไม่ได้เยอะมาก กลัวจะกระทบกับหน้าที่การงาน เราเป็นข้าราชการ แต่เงินก้อนนี้ สามีตั้งใจออม จึงอยากได้คืน และไม่รู้ว่าพนักงานของ สปส.แอบเอาเงินคนเฒ่าคนแก่ ไปใช้แล้วเท่าไหร่ ยังมีคนชราอีกมากที่อยากได้เงินออมไว้ใช้แต่ก็อาจหลงลืมไม่ได้ติดตามเงิน ขนาดเราเองยังเพิ่งจะลุกมาทวงถาม เราตามจนรู้ชื่อ ขึ้นไปถามที่สำนักงาน เขาก็ยอมรับว่าเอาไป อ้างว่าไม่มีเงินใช้ ได้ยินว่า สปส.มีการตรวจสอบกันอยู่ ตอนคุยกันเขาก็ร้องไห้ ตอนออกมาเจ้าหน้าที่โต๊ะข้างๆ ยังถามว่า เขาร้องไห้อีกแล้วเหรอ อาจจะมีคนมาตามเรื่องแบบนี้หลายครั้งแล้ว เจ้าตัวยอมรับว่าทำมา 4 รายแล้ว” ข้าราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงานกล่าว
ด้าน นพ.สุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กล่าวว่า สปส. ทราบเรื่องนี้แล้ว และไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อเดือนที่ผ่านมา มีการตั้งคณะกรรมการสอบเรื่องที่เกิด ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวน ซึ่งต้องทำอย่างละเอียดรอบคอบที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาหรือมาฟ้องร้องภายหลัง หากนำเงินของผู้ประกันตนไปจริง จะมีความผิดร้ายแรง ถึงขั้นไล่ออก ส่วนจะดำเนินคดีความด้วยหรือไม่นั้น ยังต้องรอผลการสอบสวน และต้องคืนเงินให้ผู้ประกันตนทุกคน ซึ่งในขณะนี้ทราบว่ามีมากกว่า 2 คน และพบที่สำนักงานเขตพื้นที่ 3 ดินแดงแห่งเดียว ส่วนในพื้นที่อื่นหากมีการร้องเรียนและพบความผิดตามกล่าวอ้างก็จะต้องถูกดำเนินการในทิศทางเดียวกัน ขอให้ผู้ประกันตนมั่นใจว่า สปส.มีการดูแลเงินของผู้ประกันตนที่ส่งสมทบทุกเดือนอย่างดีที่สุด การป้องกันส่วนหนึ่งจะไม่ให้พนักงานหรือเจ้าหน้าที่ได้หยิบจับเงิน แต่ในกรณีนี้มีการสั่งจ่ายเงินออกไปให้ผู้ประกันตนแล้ว แต่ผู้ประกันตนไม่ได้รับและมีพนักงานนำเอาไป ก็ต้องไปดูทางไปรษณีย์ด้วยว่ามารับไปได้อย่างไรด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สปส. ได้เปิดรับสมัครผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ทางเลือกที่ 1-5 ตั้งแต่ 9 ธ.ค.56-7 ธ.ค.57 ทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายต้องการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุออมเงินไว้ใช้จ่ายในยามจำเป็น โดยผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 65 ปี สามารถสมัครประกันสังคมมาตรา 40 ได้เฉพาะทางเลือกที่ 3 เท่านั้น ส่วนที่มีอายุเกิน 60 ปีจนถึง 65 ปีสมัครได้ทางเลือกที่ 1-5 มีผู้สูงอายุแห่สมัครกว่า 2 ล้านคน โดยทางเลือกที่ 3 พบอายุมากที่สุดถึง 106 ปี แต่ต่อมา สปส. ได้ยุบเงินออมชราภาพ ในทางเลือกที่ 3, 4 และ 5 ให้ย้ายไปรวมกับกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) และช่วงต้นปี 2558 ผู้ประกันตนได้เริ่มยื่นความจำนงลาออกเพื่อรับเงินที่ตนจ่ายเข้ากองทุนและเงินที่รัฐบาลสมทบ โดยในทุกทางเลือกมียื่นลาออกกว่า 2.4 ล้านคน ในจำนวนนี้มีทางเลือกที่ 3 ขอลาออกประมาณ 3.5 แสนคน
ที่มา – ไทยรัฐ