วันที่ 2 ต.ค. ที่สน.บุคคโล นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นำเกียรติ ธีระโรจนพงษ์ รอง ผบก.น.8 หัวหน้าพนักงานสอบสวนชุดคลี่คลายคดีการตายของ น.ส.ธิติมา นรพันธ์พิพัฒน์ หรือลันลาเบล อายุ 25 ปี พร้อมนำหลักฐานมามอบให้ในฐานะพยาน โดยนายอัจฉริยะให้ปากคำและมอบหลักฐานกับพนักงานสอบสวน สน.บุคคโล เป็นเวลานานกว่า 2 ชั่วโมง
นายอัจฉริยะ กล่าวว่า วันนี้เดินทางนำหลักฐานมามอบให้พนักงานสอบสวนคดีการตายของลันลาเบล และตัดสินใจเข้ามาให้การเป็นพยานบอกเล่า พร้อมเตรียมขึ้นศาล เนื่องจากตนมั่นใจในหลักฐานที่มีอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดข้อครหาว่า เอาแต่หอบหลักฐานมาให้ตำรวจ แต่ไม่ยอมขึ้นศาล
“จากหลักฐานที่ผมมีตอนนี้ ทั้งคลิปและเเชตลับในกลุ่มไลน์ต่างๆ เชื่อว่าน้ำอุ่นเป็นแค่ตัวละครตัวหนึ่ง แต่ยังมีผู้อยู่เบื้องหลังหลงเหลืออยู่และน่าจะมีผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีกอย่างน้อย 4 คน ในคดีการตายลันลาเบลที่จะถูกนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม น้ำอุ่นให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า เมาตั้งแต่วันแรกที่เป็นข่าว ผมยังตั้งข้อสงสัยว่า เมาได้อย่างไร เพราะผลตรวจร่างกายไม่พบแอลกอฮอล์ และในเมื่อน้ำอุ่นขับรถพาลันลาเบล จากบางบัวทอง มาถึงคอนโดที่ตลาดพลูได้ หนำซ้ำขณะขับรถยังถ่ายภาพและแชทคุยกับผู้อื่นได้ตลอดเวลา อยากถามว่า คนเมาจริงจะทำได้อย่างไร ส่วนการแจ้งข้อหาเพิ่มเติมหรือมีใครถูกดำเนินคดีอีกบ้างหรือไม่ ขอให้เป็นหน้าที่ของตำรวจ” นายอัจฉริยะ กล่าว
นายอัจฉริยะ กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ไอ้โม่งอีกกี่คนจะถูกกระชากหน้ากากเป็นหน้าที่ของตำรวจ บ้านจัดปาร์ตี้ที่บางบัวทองจัดงานได้ทุกวัน มีโมเดลลิ่งจัดส่งพริตตี้ให้ตลอด ปีละ 200-300 คน แสดงว่าที่บ้านหลังนั้นมีไว้เพื่อจัดงานปาร์ตี้อย่างเดียวไม่ทำอะไรกัน คำถามต่อไปนี้คือจัดกันทำไม จัดเพื่ออะไร และเอาเงินมาจากไหน ตนมาในฐานะพยานในคดีการตายของลันลาเบล ไม่ได้เพราะอยากดัง แต่ตนมีลูกสาว วันที่ดูข่าวกับภรรยาเห็นภาพน้ำอุ่นลากร่างลันลาเบล ผ่านกล้องไปมาบอกตรงๆ ตนรับไม่ได้ พฤติกรรมเช่นนี้
Cr. ข่าวสด