เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

“เเม่นศ.เทคนิค” กินไม่ได้ นอนไม่หลับ เผยทั้งน้ำตา ครอบครัวเพิ่งเสีย

“คุณพ่อ”ไปเมื่อต้นปี

จากกรณีอุบัติเหตุสุดสะเทือนขวัญมีผู้เสียชีวิต 13 ราย ทั้งหมดเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เกิด

ขึ้นเมื่อเวลา 00.40 น. ของวันที่ 29 ก.ย. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว จ.สมุทรปราการ รับแจ้งอุบัติเหตุ

รถกระบะชนเสาไฟฟ้าแล้วพลิกคว่ำ มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก บนถนนกิ่งแก้ว มุ่งหน้าลาดกระบัง

ก่อนถึงวัดกิ่งแก้ว ประมาณ 200 เมตร ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ล่าสุดนั้น ร่างของ13 นักศึกษา

วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษได้กลับถึงบ้านเกิดเเล้ว ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของบรรดาพ่อ เเม่ ญาติพี่

น้องเเละเพื่อนๆ เตรียมนำไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ความคืบหน้าในวันนี้ 1 ต.ค. 62 นั้น หลังจากมีข่าวออกมาว่า ทางรถกระบะคันที่เกิดเหตุดังกล่าวนั้น ทั้ง

ประกัน เเละ พ.ร.บ. หมดอายุ จึงไม่ได้รับคามคุ้มครองเเละค่าสินไหมทดเเทน โดย ทาง นางสาวพรพยงค์

บัวศรี ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) อุบลราชธานี

ซึ่งกำกับดูแล คปภ.จังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า บริษัท วิริยะประกันภัย ซึ่งเป็นผู้รับทำประกันอุบัติเหตุให้นักศึกษา

ฝึกงานที่เสียชีวิตจะนำเงินสินไหมทดแทนมามอบให้ญาติผู้เสียชีวิตพร้อมกันเวลา 10.00 น.วันที่ 2 ตุลาคม

2562 ที่วิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เพื่อความสะดวกและรวดเร็ว

 

ในส่วนของครอบครัว นายจักรพงษ์ มะโนรัตน์ อายุ 20 ปี 1 ใน13 นักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ ที่

เสียชีวิตจากอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งที่บ้านเกิดหมู่ที่ 4 ต. เมืองจันทร์ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ นางสุพัตรา

มะโนรัตน์ อายุ 47 ปี แม่ของนายจักรพงษ์ หรือน้องโมเม อยู่ในสภาพอิดโรย มือซ้ายถูกเจาะสายน้ำเกลือ

เพื่อรักษาอาการป่วยจากความเครียดหลังจากที่ทราบข่าวลูกชายเสียชีวิต

ยอมรับว่าตนเองยังทำใจไม่ได้ที่จะเห็นร่างไร้วิญญาณของลูกชาย กลัวเกิดอาการช็อก หรือทรุดไปมากกว่า

นี้ ตอนแรกที่ทราบข่าวคิดว่าเป็นอุบัติเหตุเล็กน้อย ที่ผ่านมาลูกชายขยัน เลิกจากโรงเรียนมาก็จะช่วยงานที่บ้าน

ลูกเคยบอกกับตนเองว่าถ้าเรียนจบแล้ว จะทำงานเก็บเงินสร้างบ้านหลังใหม่ให้แม่ที่ จ. เพชรบูรณ์ เขาบอกว่า

อยากให้แม่มีความสุข

 

นางสุพัตราเล่าต่อว่า เมื่อวันที่ 29 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนเองก็เพิ่งเสียสามีสุดที่รัก และต้องมาสูญเสียลูกชาย

ที่จากไปอีก ก่อนหน้านั้นลูกโทรศัพท์มาบอกว่า วันที่ 29 ก.ย. จะกลับบ้านเรา กลับมาเรียนหนังสือ หลังลูก

เสียชีวิต ตนนอนไม่หลับ กินอะไรก็ไม่ค่อยจะได้ เมื่อเช้ามืดตนเองออกจากโรงพยาบาล กลับมาถึงบ้านก็

ไม่ได้ทักทายศพลูก มีแต่น้ำตาที่ไหลรินออกมาทักทายศพลูกแทน ตอนนี้ตนเองก็ไม่อยากได้ยินแม้กระทั่ง

เสียงเครื่องเสียงที่เปิดเพลงมโหรีที่บ้าน เพราะได้ ยินทีไรน้ำตาก็ไหลทุกที ส่วนห้องนอนที่ตนเองนอนใส่สาย

น้ำเกลืออยู่นี้ ก็เป็นห้องของลูกชาย ตนเองมานอนที่นี่เพราะคิดถึงลูก ทุกวันนี้มีแต่ความว่างเปล่า ปกติเปิด

ประตูห้องนอนเข้ามาก็จะเห็นหน้าลูกชาย แต่วันนี้ไม่มีภาพนั้นแล้ว