เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

อุทาหรณ์!ดื่มน้ำอัดลมไม่ต่ำกว่า 2 กระป๋องทุกวัน เบาหวานขึ้นหนัก ลุกลามจนเกือบเสียแขน

 

น้ำอัดลม เป็นอีกหนึ่งเครื่องดื่มที่คนนิยมชมชอบกันทั่วโลก ยิ่งเวลาอากาศร้อนๆ แล้ว พอได้ดื่มน้ำอัดลมก็จะช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาได้มากเลยทีเดียว แต่ถ้าหากดื่มมากจนเกินไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นก็อาจร้ายแรงเหมือนกับสิ่งที่ชายคนนี้ต้องเผชิญ มันคือโรคร้ายที่ทำให้เขาเกือบต้องเสียแขนไปเพราะการดื่มน้ำอัดลมทุกวัน

 

คุณลุง Mohd Razin Mohamed อายุ 56 ปี ชาวเมือง Rawang ประเทศมาเลเซีย ได้เล่าประสบการณ์ของตัวเองว่าเขาเคยเป็นคนที่ชอบดื่มน้ำอัดลมมากๆ “ทุกวันผมจะซื้อน้ำอัดลมมาดื่มอย่างน้อยวันละ 2 กระป๋อง” ซึ่งนั่นหมายความว่าอาจมีบางวันที่เขาดื่มน้ำอัดลมเข้าไปมากกว่า 2 กระป๋อง และการเสพติดเครื่องดื่มชนิดนี้ทำให้เขารับน้ำตาลเข้าไปเป็นจำนวนมากกว่าคนปกติ

 

เมื่อตอนที่ Mohamed อายุได้ 40 ปี เขาเริ่มเกิดความสงสัยเกี่ยวกับสุขภาพร่างกายตัวเอง หลังจากที่เห็นว่ามีมดชอบมาไต่มาตอมอยู่ตรงบริเวณที่เขาปัสสาวะ นอกจากนั้นเขายังเคยเป็นลมถึง 3 ครั้ง ระหว่างที่ทำงานเป็นพนักงานบริษัทโทรคมนาคมแห่งหนึ่ง โดยที่เขาไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นคือสัญญาณของระดับน้ำตาลที่สูงเกินไป เมื่อไปหาหมอที่คลินิกถึงได้ทราบว่าเขากำลังป่วยเป็นโรคเบาหวาน หมอแนะนำให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล แต่ตอนนั้นคุณลุงกลับไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ และใช้ชีวิตตามปกติต่อไปเรื่อยๆ

 

การเมินเฉยต่อคำแนะนำของหมอ ทำให้อาการเบาหวานของคุณลุงยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม มีตุ่มเกิดขึ้นที่บริเวณหลัง ผ่านไปเป็นเดือนก็ไม่ยอมหาย จากที่เคยเป็นตุ่มเล็กแค่นิ้วโป้ง ไปๆ มาๆ กลับใหญ่ขึ้นจนเกือบเท่าฝ่ามือ อาการที่เลวร้ายลงเรื่อยๆ ทำให้ Mohamed ตัดสินใจเดินทางไปเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล Sungai Buloh ซึ่งขณะนั้นเขาได้มีอาการติดเชื้อที่ผิวหนังเกิดเป็นแผลลึกบริเวณหลัง หัวไหล่ และแขนข้างขวา แพทย์บอกว่าคุณลุงยังถือว่าโชคดีที่มาเข้ารับการรักษาได้ทันเวลา เพราะหากว่าสายกว่านี้อีกสักนิด เขาก็คงจะต้องเสียแขนข้างนี้ไปแล้ว

 

ทีมแพทย์จำเป็นต้องทำการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง เพื่อกำจัดผิวหนังส่วนที่ติดเชื้อออกไป รวมถึงดูดหนองบริเวณโดยรอบออกจนหมด ซึ่งทำให้เขาต้องทรมานกับการสมานแผลอยู่นานพอสมควรเลยทีเดียว “ผลกระทบจากการผ่าตัดนั้นทำให้ผมยกแขนขวาขึ้นมาได้ยากเอามากๆ นอกจากนั้นผมก็มีอาการเจ็บหลังเวลานอนเพราะผิวหนังบริเวณนั้นมันไม่มีความสม่ำเสมอ”

 

หลังจากการรักษาในครั้งนั้น แพทย์ก็จำเป็นที่จะต้องเฝ้าดูอาการต่อไปอีกระยะหนึ่ง และคุณลุงก็ต้องกินยาเพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในร่างกายเอาไว้ให้เหมาะสม และจากการรายงานวันที่ 14 กันยายน 2562 กล่าวว่า อาการของคุณลุงดีขึ้นแล้ว สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ยังต้องระวังในเรื่องของการบริโภคน้ำตาลอยู่เสมอ “การที่เรานึกเสียใจมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย ที่ผมเป็นนี้ก็คือผลลัพธ์จากการที่บริโภคน้ำตาลมากจนเกินไป”

Cr : Harian Metro,Oh! Semput,World of Buzz,catdumb