เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

สำนักข่าวต่างประเทศ ฮาเรียนเมโทร รายงานกรณีอุทาหรณ์ของชายชาว มาเลเซีย ที่เกือบจะต้องเสียแขนข้างหนึ่งเพราะดื่มน้ำอัดลมหวานๆ เป็นประจำทุกวัน และต่อเนื่องมานานหลายปี

 นายโมห์ด ราซิน โมฮาเหม็ด อายุ 56 ปี จากบูกิตเซนโตซา ในเมืองราวัง รัฐสลังงอร์ รู้ตัวว่าป่วยเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่อายุ 40 ปี หลังจากดื่มน้ำอัดลมกระป๋องอย่างน้อย 2 กระป๋องต่อวันเป็นประจำทุกวัน

แม้จะพยายามควบคุมน้ำตาล แต่อาการของโรคกลับสาหัสขึ้น กระทั่งวันหนึ่งมีตุ่มพองเล็กๆ ขึ้นที่หลัง ซึ่งนายโมห์ดกก็ปล่อยไว้หลายเดือนโดยไม่ได้ไปพบแพทย์ กระทั่งตุ่มพองขยายใหญ่ขึ้นจากขนาดหัวแม่มือเป็นฝ่ามือ

นายโมห์ดจึงรีบเดินทางไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการรักษา แม้จะต้องถูกเฉือนเนื้อในส่วนที่ติดเชื้อออก ซึ่งบางส่วนกัดกินลึกลงไปถึงกระดูก แต่แพทย์ก็สามารถรักษาแขนของนายโมห์ดไว้ได้ “แพทย์ทำการผ่าตัด 2 ครั้ง และต้องตัดทิ้งเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกทั้งหมด ผลของการผ่าตัดทำให้ผมยกแขนได้ย่างยากลำบาก และหลังก็เจ็บปวดมากจากผิวหนังที่ถูกตัดออกไป” นายโมห์ดกล่าว

พร้อมเล่าย้อนไปถึงเมื่อครั้งยังทำงานเป็นพนักงานบริษัทโทรคมนาคมว่า ดื่มน้ำอัดลมกระป๋องช่วงพักกินอาหารเที่ยงอย่างน้อย 2 กระป๋องทุกวัน จนปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงมากขนาดเป็นลมล้มพับระหว่างทำงานถึง 3 ครั้ง ก่อนจะรู้ความจริงว่าป่วยเป็นโรคเบาหวานในที่สุด “ความรู้สึกเสียใจตอนนี้ไม่มีประโยชน์แล้ว นี่คือผลลัพธ์ของการกินน้ำตาลมากเกินไป”