เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

บีบีซี รายงานวันที่16 ก.ย. ถึงความคืบหน้าสถานการณ์โดรนโจมตี โรงกลั่นน้ำมัน ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและบ่อน้ำมันสำคัญของ ซาอุดีอาระเบีย เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา ว่า ทางการสหรัฐเปิดเผยภาพถ่ายดาวถ่าย พร้อมเรียกร้องให้หน่วยข่าวกรองรับรองว่า อิหร่านคือผู้อยู่เบื้องหลังการโจมตีโรงน้ำมันของซาอุฯ ไม่ใช่กลุ่ม กบฏฮูตี ในเยเมน

ก่อนหน้านี้รัฐบาลอิหร่านปฏิเสธข้อครหาของ นายไมก์ พอมเพโอ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ที่พุ่งเป้าว่าเหตุโจมตีโรงน้ำมันซาอุฯ เป็นฝีมือของอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านเป็นคู่อริของซาอุฯ ในสมรภูมิสงครามกลางเมืองเยเมน ซึ่งรัฐบาลซาอุฯ ส่งกองทัพสนับสนุนรัฐบาลเยเมนในการปราบปราบกลุ่มกบฏฮูตี

 

 

ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ โพสตข้อความทางทวิตเตอร์ว่า “คลังน้ำมันของซาอุฯ ถูกโจมตี มีเหตุผลที่เชื่อได้ว่าเรารู้ว่าใครคือผู้กระทำผิดซึ่งถูกพุ่งเป้าและเป็นที่จับตาในการตรวจสอบแล้ว แต่เรากำลังรอฟังจากซาอุฯ ว่าพวกเขาเชื่อว่าใครเป็นผู้รับผิดชอบกับการโจมตีในครั้งนี้ และภายใต้เงื่อนไขเราจะดำเนินการกับผู้ที่ก่อเหตุดังกล่าว!” แม้จะไม่มีการกล่าวอ้างถึงอิหร่าน แต่เจ้าหน้าที่อาวุโสสหรัฐนายหนึ่งยืนยันกับเอบีซีนิวส์ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ตระหนักดีว่าอิหร่านมีส่วนรับผิดชอบกับการโจมตี

 

 

ด้านเจ้าหน้าที่สหรัฐอีกนายกล่าวว่า จุดโจมตีและได้รับผลกระทบ 19 จุด มาจากทางตะวันตก และตะวันตกเฉียงเหนือ ไม่ใช่พื้นที่ยึดครองของกบฏฮูตีในเยเมน ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของโรงน้ำมันที่ถูกโจมตี พร้อมตั้งข้อสันนิษฐานจากทิศทางดังกล่าวว่า จุดปล่อยโดรนและการโจมตีน่าจะมาจากทางเหนือของอ่าวเแอร์เซีย ซึ่งมี 2 ประเทศ ได้แก่ อิรัก และอิหร่าน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่สหรัฐอีกหลายนายยังให้สัมภาษณ์นิวยอร์กไทมส์ตรงกันว่า การโจมตีโรงน้ำมันซาอุฯ ไม่ได้มีเพียงโดรน แต่อาจมีการยิงขีปนาวุธร่อน หรือครูซมิสไซล์ด้วย