เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันนี้ (11 ก.ย.) ตั้งแต่เวลา 09.00 น. ศาลฎีกาอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการยื่นฟ้องนายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง อดีตแกนนำ นปช. กับพวก บุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อปี 2552 ซึ่งจัดขึ้นที่โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา

โดยคดีนี้ ศาลจังหวัดพัทยาซึ่งเป็นศาลชั้นต้นพิพากษาเมื่อวันที่ 5 มี.ค.2558 ตัดสินจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา นายอริสมันต์ กับพวกรวม 13 คน ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น กระทั่งศาลนัดอ่านคำพิพากษาฎีกาชี้ขาดคดีดังกล่าวในวันนี้

ศาลฎีกาพิพากษาว่ายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก 4 ปี นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง กับพวกรวม 12 คน เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา ยกเว้นนายสมยศ พรหมมา เนื่องจากเป็นมวลชน ไม่ใช่แกนนำปลุกระดมให้กระทำการรุนแรง พร้อมกับออกหมายจับจำเลยทั้งหมดที่ได้รับการลงโทษ แต่ไม่ได้มาฟังคำพิพากษาในวันนี้

 

ทั้งนี้ เหตุการณ์การก่อความไม่สงบของกลุ่ม นปช. เมื่อเมษายน พ.ศ. 2552 มีนายอริสมันต์เป็นแกนนำผู้ชุมนุมที่เมืองพัทยา จังหวัดชลบุรี โดยนำผู้ชุมนุมทั้งจากจังหวัดใกล้เคียงและที่สมทบจากกรุงเทพฯ เพื่อปิดล้อมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับคู่เจรจา เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2552 ได้เข้าปิดล้อมหน้าโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท พัทยา เพื่อเข้ายื่นหนังสือกับตัวแทนอาเซียน

และในวันต่อมาได้กลับมาชุมนุมหน้าโรงแรมอีกครั้ง เพื่อกดดันรัฐบาลให้รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ปะทะกับกลุ่มคนสวมเสื้อสีน้ำเงินในช่วงเช้า จนกระทั่งรัฐบาลไทยในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุม ขอเลื่อนการประชุมออกไปโดยไม่มีกำหนด แล้วพาผู้นำประเทศต่างๆ เดินทางออกจากสถานที่ประชุม และขึ้นเครื่องบินกลับภูมิลำเนาของประเทศต่างๆ โดยทันที