มอบตัวแล้ว พี่เลี้ยงโหด เข้าพบตำรวจ สภ.บางสะพาน หลังทำร้าย “น้องเนส” วัย 2 ขวบ อาการปางตาย ยอมรับใช้ไม้แขวนเสื้อตีจริงเพราะโมโหเด็กดื้อ แม่เศร้าลูกยังคงนอนไม่ได้สติ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
เมื่อวันที่ 7 ก.ย. ที่ สภ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ น.ส.รัชนาพร แซ่ลิ้ม อายุ 25 ปี ได้เดินทางเข้าพบ ร.ต.อ.สมจิตร์ บุญตาม รอง สารวัตรสอบสวน ร้อยเวรสอบสวนเจัาของคดีทำร้ายร่างกาย ด.ช.พีระพล แดงดงยิ่ง หรือน้องเนส วัย 2 ปี 6 เดือน ที่ น.ส.จามจุรี บุตรเกตุ ที่นำลูกมาฝากเลี้ยง ได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องส่ง รพ.ประจวบคีรีขันธ์ แม่เด็กจึงเข้าแจ้งความดำเนินคดี
โดย พ.ต.อ.ธนกร รอดเรือง ผกก.สภ.บางสะพาน พร้อมด้วย พนักงานสอบสวนได้นำตัว น.ส.รัชนาพร เข้าห้องสอบสวน ใช้เวลาสอบนานประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการสอบสวน ได้มีญาติของน้องเนส ที่ทราบข่าวว่า ผู้ต้องหามอบตัว ได้เดินทางมาที่ สภ.บางสะพาน เพื่อดูหน้าผู้ต้องหา เจ้าหน้าที่จึงเร่งนำตัวผู้ต้องหา ขึ้นรถตำรวจ แต่เกรงว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์ขุลมุนเนื่องจากความโกรธแค้น โดยมีกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 15 นายเข้ามาควบคุมในการนำขึ้นรถ ส่งไปศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อขอฝากขัง
พ.ต.อ.ธนกร เปิดเผยว่า หลังจากได้รับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ได้เร่งสืบสวน ซึ่งได้มีการส่งหมายเรียกไปยัง น.ส.รัชนาพร ที่เป็นพี่เลี้ยงของน้องเนสที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยว่าได้มีการทำร้ายน้องเนส เข้ามาให้ปากคำพนักงานสอบสวน โดยเมื่อช่วงเช้านี้ทางพี่เลี้ยงก็ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก เพื่อมามอบตัวแสดงความบริสุทธิ์พร้อมที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
เจ้าหน้าที่ตำรวจก็จะดำเนินการสอบสวนให้ความยุติธรรมต่อทั้ง 2 ฝ่าย จากการสอบสวน น.ส.รัชนาพร ก็ได้ยอมรับว่าได้มีการทำร้ายเด็กจริง โดยได้ใช้ไม้แขวนเสื้อตีไปตามร่างกาย ตามลำตัวเด็ก ตั้งแต่เมื่อวันที่ 1 ที่ผ่านมา เนื่องจากบันดาลโทสะ ที่ปัสสาวะรดที่นอนเด็กดื้อพูดไม่ยอมฟัง
ด้าน น.ส.รัชนาพร พี่เลี้ยงเด็ก มีท่าทีเรียบเฉย สวมหมวกและปิดหน้ากากอนามัยเพื่อปิดบังใบหน้าไว้ โดยมีญาติๆของน้องเนส มารอดูที่ สภ.บางสะพานด้วย แต่ไม่สามารถเข้าใกล้กับผู้ต้องหาได้ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางสะพาน จำนวนมาก
ส่วนอาการป่วยของน้องเนส ล่าสุดนั้น พบว่า อาการยังทรงตัว มีภาวะวิกฤต และยังไม่ตอบสนอง อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อย่างใกล้ชิด
ด้าน น.ส.จามจุรี บุตรเกตุ แม่ของน้องเนส กล่าวว่า ตอนนี้ตนและครอบครัว เป็นห่วงอาการของน้องเนส มากที่สุด อยากให้น้องมีการตอบสนองต่อการรักษาและออกมาพักฟื้นที่ห้องผู้ป่วยเด็กธรรมดา ส่วนของเรื่องคดีนั้นคงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่ขอดำเนินคดีกับพี่เลี้ยงรายนี้ให้ถึงที่สุด