สาวใหญ่คิดสั้น รมควันตัวเองดับคาเก๋ง

สาววัย 41 เครียดคิดสั้น จอดรถเก๋งหน้าอาคารศูนย์กีฬาเทศบาล รมควันตัวเองดับ พบบันทึกตัดพ้อในชีวิตผ่านเรื่องอะไรมาก็เยอะ แต่เรื่องนี้ผ่านไม่ได้จริงๆ

เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 62 – พ.ต.อ.สงวนศักดิ์ พูลทรัพย์ ผกก.สภ.จัตุรัส ได้รับรายงานจาก ร.ต.อ.ชัยวัฒน์ ตุนชัยภูมิ รอง สว.(สอบสวน) สภ.อำเภอจัตุรัส ว่าทางศูนย์วิทยุ 191 ตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ได้รับแจ้งว่ามี จนท.ทำความสะอาดของเทศบาลฯ พบร่างผู้เสียชีวิตภายในรถเก๋งบริเวณหน้าอาคารศูนย์กีฬาเทศบาลตำบลจัตุรัส หมู่ที่ 1 ตำบลบ้านกอก อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ จึงรุจไปตรวจที่เกิดเหตุพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างคุณธรรม อำเภอจัตุรัสและแพทย์เวรโรงพยาบาลอำเภอจัตุรัส

ในที่เกิดเหตุพบรถซูซุกิ เซียส สีเทา ป้ายทะเบียน กฉ 7644 หมวดจังหวัดชัยภูมิ จอดอยู่ใต้ร่มไม้ บริเวณด้านหน้าอาคาร อเนกประสงค์ศูนย์กีฬาตำบลจัตุรัส ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตหญิง 1 ราย สภาพขึ้นอืดทราบต่อมาคือ นางสุพรรณี ราชทัย อายุ 41 ปี อาศัยบ้านเลขที่ 43 หมู่ที่ 6 ตำบลหนองโดน อำเภอจัตุรัส จังหวัดชัยภูมิ

เบื้องต้นสอบถาม นายผานิต นรศาสตร์ อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่เทศบาลจัตุรัส เล่าว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตนได้ออกตัดหญ้าบริเวณหน้าเทศบาลและหน้าอาคารศูนย์กีฬาเยาวชน ได้สังเกตเห็นรถยนต์คันดังกล่าวจอดอยู่บริเวณดังกล่าวนาน 2 วันแล้ว พอตัดหญ้าเข้ามาใกล้ก็มองเห็นเงาลักษณะคล้ายคนนอนอยู่ในรถ ตนจึงมองเข้าไปเพื่อจะขอให้ขยับรถ เพราะจะตัดหญ้าจุดดังกล่าว แต่ก็ต้องผงะเมื่อพบว่าเป็นคนขับเสียชีวิตแล้ว จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยตรวจสอบก่อนที่จะได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน สภ.เมืองชัยภูมิ เข้าร่วมตรวจสอบชันสูตรในที่เกิดเหตุ

รถเก๋งดังกล่าวถูกล็อคจากด้านใน และภายใน รถยังพบเตาไฟ ถ่านจำนวน 2 ถุงแกะใช้แล้ว เอกสารทางราชการ และสมุดบันทึก ที่เขียนข้อเป็นข้อความตัดพ้อว่า “สิ่งที่กำลังทำก็รู้อยู่ว่าไม่ถูก ในชีวิตผ่านเรื่องอะไรมาก็เยอะแยะ แต่เรื่องนี้ผ่านมันไม่ได้จริงๆ ขอโทษทุกคนที่รักนะแต่มันไม่ไหวจริงๆ”

ผู้สื่อข่าวได้พบกับนางประเสริฐ เสริฐสิน อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นแม่ของผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการโศกเศร้า เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวของตนได้ทำงานฝ่ายขายอยู่ที่ศูนย์โตโยต้าแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ เพิ่งลาออกมาได้ไม่ถึง 2 อาทิตย์ เนื่องจากทำยอดขายไม่ได้ ก่อนหายตัวไปได้บอกกับตนว่าหางานใหม่ได้แล้วนะแม่ ส่วนปัญหาครอบครัว เพิ่งมีเรื่องทะเลาะกับสามีใหม่มาก่อนหน้านี้ ขณะที่นิสัยลูกของสาวเป็นคนร่าเริง สู้ชีวิต เป็นคนเข้มแข็งไม่เคยท้อแท้ ไม่คิดว่าลูกจะมาฆ่าตัวตายแบบนี้ แต่เมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้วตนก็ไม่ติดใจการเสียชีวิตของลูกสาว และจะฌาปนกิจร่างของลูกสาวในวันพรุ่งนี้ต่อไป

ทางด้าน ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย อายุ 15 ปี เล่าด้วยน้ำตาว่า ต่อจากนี้ไป หลังจากไม่มีแม่ที่เป็นคนส่งเสียให้เรียนหนังสือมาตลอด ตนคงไปอยู่กับพ่อที่หย่าร้างกับแม่ แต่ตอนนี้อยู่กับตายาย ไปก่อน ส่วนการเสียชีวิตของแม่ ก็ยังติดใจ เนื่องจากแม่เป็นคนร่าเริง และแม่ไม่เคยมีหมอนสีขาวอยู่ในรถ แต่กลับมีหมอนสีขาวรองคอแม่อยู่หลังเสียชีวิต ส่วนเตาที่ใช้รมควันก็ยังมีถ่านเหลืออยู่จำนวนมาก ไหม้แค่นิดเดียว ไม่น่าถึงกับเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม แม่ได้เขียนข้อความตามที่ระบุไว้ในสมุด ตนจึงไม่รู้สาเหตุที่แท้จริง