เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ร.ต.ท.พิสุทธิ์ ฤทิธิ์ขจร รอง สารวัตร (สอบสวน)สน.พหลโยธิน รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์ภายในแท็งค์น้ำบนดาดฟ้า อาคารร้างไม่มีชื่อตรงข้ามศาลอาญารัชดา แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วยพ.ต.อ.เชษฐา สว่างสุข ผกก.สน.พหลโยธิน ฝ่ายสืบสวนสน.พหลโยธิน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ที่เกิดเหตุเป็นอาคารร้างสูง 32 ชั้น ซึ่งอยู่หลังสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) บริเวณที่ชั้น 32 ซึ่งเป็นชั้นดาดฟ้า พบแท็งค์น้ำขนาดใหญ่ที่ก่อด้วยปูนซีเมนต์ มีความสูงประมาณ 3 เมตร กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร มีปากบ่อกว้างยาว 80 ซ.ม. จำนวน 2 ช่อง แต่ไม่มีบันไดลงไปในแท็งค์น้ำ

เจ้าหน้าที่ต้องประสานบันไดและอุปกรณ์ที่ใช้ทำงานในที่อับอากาศ เพราะเกรงว่าด้านในจะมีอากาศไม่เพียงพอ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วว่ามีความปลอดภัยมีอากาศเพียงพอ จึงลงไปตรวจสอบภายในแท็งค์น้ำ พบโครงกระดูกสภาพสมบูรณ์ คาดว่าเสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 3 เดือน สวมแต่กางเกงชั้นใน อยูในสภาพนอนหงาย ใกล้กันพบรองเท้าผ้าใบ 1 คู่ ถุงเท้า 1 คู่ โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง วางอยู่ในรองเท้าผ้าใบ แต่ไม่พบเอกสารใดๆ ติดตัว และยังพบร่องรอยการก่อกองไฟอยู่ใกล้ๆ โครงกระดูก เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนนายปัญญา บัวเงิน อายุ 32 ปี ช่างสำรวจอาคารที่พบโครงกระดูกเป็นคนแรก ให้การว่าอาคารดังกล่าวป็นอาคาร สูง 32 ชั้น ลักษณะเคยก่อสร้างเป็นโรงแรมที่ยังไม่แล้วเสร็จ ตัวอาคารร้างมาเกือบ 30 ปี เท่าที่ทราบมีปัญหาการฟ้องร้องกันมายาวนาน จนผู้ชนะคดีจะเข้ามารีโนเวท จึงได้ว่าจ้างช่างเข้าไปสำรวจ เมื่อวันที่ 31 ส.ค. กระทั่งพบโครงกระดูกดังกล่าวอยู่ในแท็งค์น้ำ จึงแจ้งทางเจ้าของอาคารทราบ ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันนี้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร และเป็นเพศหญิงหรือเพศชาย เนื่องจากไม่พบเอกสารติดตัว จึงจะตรวจสอบสาเหตุที่ผู้ตายขึ้นไปบนตัวอาคาร และลงไปทำอะไรในแท็งค์น้ำ ทั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าเมื่อผู้ตายลงไปแล้วกลับขึ้นไม่ได้ จึงอาจจะถอดเสื้อผ้าก่อไฟเพื่อให้เกิดกลุ่มควันเป็นการส่งสัญญาณให้ผู้คนพบเห็นและมาช่วยเหลือ แต่ไม่มีใครพบเห็น เนื่องจากเป็นอาคารสูง จนขาดอาหารและน้ำ ทำให้เสียชีวิต