วันนี้ 29 ส.ค.60 นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยถึงการเปิดรับลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” รับเงิน 1,000 บาท เพื่อใช้เดินทางท่องเที่ยว ยืนยันว่า การเปิดลงทะเบียนจะเปิดกว้างให้คนไทยทุกคนที่มีอายุเกิน 18 ปี สามารถลงทะเบียนได้อย่างเท่าเทียมกัน รวมถึงผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 14 ล้าน 6 แสนราย ก็สามารถเข้าร่วมได้ ส่วนกรณีประชาชนจะนำเงินที่ได้รับชิมช้อปใช้ 1,000 บาท ไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยอมรับว่า ไม่สามารถห้ามได้ เพราะตามระเบียบ กำหนดให้ใช้จ่ายเฉพาะผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตัง กับร้านค้าที่เข้าร่วม ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสินค้าชุมชน ร้านอาหาร และที่พัก แต่ยกเว้นห้ามนำไปเติมน้ำมัน
โดย ประชาชนที่สนใจลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิมาตรการชิมช้อปใช้ สามารถลงทะเบียนได้ที่ www.ชิมช้อปใช้.com เริ่มตั้งแต่วันที่ 23 ก.ย. – 15 พ.ย. 2562 สมัครได้วันละ 1 ล้านคน โดยมีเงื่อนไขต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย มีบัตรประจำตัวประชาชน และมีอายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และวันที่ลงทะเบียน ต้องเลือกจังหวัดที่ประสงค์จะเดินทางไปใช้สิทธิ โดยไม่ใช่จังหวัดตามสำเนาทะเบียนบ้าน เมื่อลงทะเบียนสำเร็จ ระบบจะแจ้งอีเมลยืนยันว่าลงทะเบียนแล้ว และภายใน 3 วัน ธนาคารกรุงไทย จะส่งเอสเอ็มเอสไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่แจ้งไว้ หากถูกต้องจะแจ้งให้ทราบว่าได้รับสิทธิ พร้อมแจ้งรายละเอียด จังหวัด และระยะเวลา วันที่สามารถไปใช้สิทธิได้ภายใน 14 วัน จากนั้นเริ่มดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น เป๋าตัง ได้ โดยในแอพจะแบ่งเป็น 2 ช่อง ช่องแรกรับเงิน 1,000 บาท และช่องสำหรับใช้เติมเงิน เพื่อรับแคชแบ็กเงินชดเชยคืน 15% ของจำนวนเงินที่ใช้จ่าย แต่ไม่เกิน 4,500 บาท จากวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 3 หมื่นบาท
ด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นำเงินไปซื้อเหล้า เบียร์ บุหรี่ ยืนยันว่าเป็นแค่คนส่วนน้อย ซึ่งตอนนี้สั่งให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ติดตามข้อมูลและสื่อสารให้ผู้ถือบัตร เข้าใจวัตถุประสงค์ของมาตรการ และกระตุ้นให้ใช้เงินอย่างถูกต้อง ยืนยันว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมีเป้าหมายชัดเจนในการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค เกิดการจับจ่ายใช้สอยและเกิดสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะขนาดกลางและขนาดย่อม หรือเอสเอ็มอี และชุมชน หากไม่มีมาตรการ ความมั่นใจและการจับจ่ายใช้สอยก็จะหายไป คนที่ได้รับผลกระทบก็คือผู้ประกอบการ และเศรษฐกิจในภาพรวม
ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่มีประชาชนเรียกร้องอยากให้รัฐบาลเปิดลงทะเบียนเพิ่มเติมว่า ขณะนี้กำลังตรวจสอบอยู่ ที่ผ่านมาเปิดลงทะเบียนไปแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 2 ได้มีการปลดล็อกบางอย่างให้คนเข้ามาได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือความซื่อสัตย์สุจริต ใครที่รู้ตัวว่ามีเงิน มีที่ดิน และมีบ้านอย่าเข้ามาเลย เพราะจะทำให้คนอื่นเสียโอกาส จึงต้องมีจิตสำนึก เพราะรัฐบาลใช้เงินต้องดูจากการจัดระเบียบ ส่วนเรื่องที่ว่า บางคนมีที่ดิน มีบ้าน แต่ไม่มีรายได้ แต่อยากมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น จะต้องมีการตรวจสอบ