หนุ่มชุมพรวัยเบญจเพส ต้องคดี ข่มขืนเด็กหญิง13 พูดคุยผ่านแชต นัดพาไปดูหนัง เลี้ยงข้าว พาเข้าม่านรูด ถูกออกหมายจับ หนีอยู่ 3 ปีโดนกองปราบตามรวบ สารภาพข่มขืนจริง
วันที่ 27 ส.ค. ที่กองปราบปราม พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ต.ฐิติวัสส์ แซมเขียว สว.กก.5 บก.ป. นำกำลังจับกุมนายนัฐพงษ์ หรือ กาย จันทร์แดง อายุ 25 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลมณฑลทหารบกที่ 45 เลขที่ 37/2559 ลงวันที่ 7 พ.ย.59 ข้อหา “พรากเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม และพาเด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร” และหมายจับของศาลจังหวัดยะลา ข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน” อีก 2 คดี โดยจับกุมได้ภายในโชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อดังแห่งหนึ่ง ริมถนนเพชรเกษม หมู่ 4 ต.ธรรมศาลา อ.เมือง จ.นครปฐม
จากการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อปี 2559 นายนัฐพงษ์ได้ชักชวน ด.ญ.เอ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ไปเที่ยวด้วยกันสองต่อสองที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังใน อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี จากนั้นก็พาไปเลี้ยงข้าวและดูหนังจนมืดค่ำ ขากลับก็จะพา ด.ญ.เอซ้อนท้ายรถจยย.กลับบ้านพัก แต่กลับเลี้ยวรถเข้าโรงแรมม่านรูดแห่งหนึ่ง แล้วบังคับขืนใจ ด.ญ.เอ จนสำเร็จความใคร่ พร้อมกับข่มขู่ว่าห้ามนำเรื่องไปบอกใคร ไม่อย่างนั้นจะฆ่าให้ตาย
หลังจากนั้นก็พา ด.ญ.เอ ไปส่งบ้านพัก ปรากฏว่าผู้ปกครองสังเกตว่า ลูกสาวมีอาการเซื่องซึมไม่ยอมกินข้าวและพูดคุยเหมือนปกติ ก็เลยสอบถามจนทราบความจริงว่าถูกขืนใจ จึงพาลูกสาวเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ศาลได้ออกหมายจับเอาไว้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ทราบว่านายนัฐพงษ์กำลังจะมาซื้อรถที่โชว์รูมรถยนต์ยี่ห้อดังแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม จึงเข้าจับกุมตัวได้ดังกล่าว
จากการสอบสวน นายนัฐพงษ์ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่าเคยคบหาเป็นแฟนอยู่กับเด็กหญิงผู้เสียหาย ขณะนั้นตนเป็นทหารเกณฑ์อยู่ที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งใน จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่างนั้นก็ใช้โปรแกรมบีทอล์กพูดคุยกับผู้เสียหายจนเชื่อใจยอมไปเที่ยวด้วย กระทั่งระหว่างทางกลับบ้าน ตนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงเลี้ยวรถจยย.พาผู้เสียหายเข้าโรงแรมม่านรูด
และบังคับขืนใจสำเร็จความใคร่ไป 1 ครั้ง ก่อนพาไปส่งบ้านพัก ส่วนหมายจับคดีลักทรัพย์นั้น ขณะเกิดเหตุตนเป็นเพื่อนกับลูกชายของผู้เสียหาย ก็ไปกินนอนอยู่ที่บ้านเพื่อนคนนี้ แต่ต้องการจะหาเงินเที่ยว ก็เลยแอบลักรถจยย.ของเพื่อนไปขายเพื่อหาเงินมาใช้ จึงแจ้งข้อหาก่อนนำตัวส่ง สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ดำเนินคดีต่อไป
