เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 26 ส.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังมอบนโยบายให้กับกรมสรรพากร ว่า ในช่วง 10 เดือน (ต.ค.2561-ก.ค.2562) ของปีงบประมาณ 2562 กรมสรรพากรรายงานว่าจัดเก็บภาษีได้เกินเป้าหมาย 4.8 หมื่นล้านบาท แต่ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกมีความท้าทาย ในปีงบประมาณ 2563 จะต้องมีมาตรการดูแลการจัดเก็บรายได้ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ 2.116 ล้านล้านบาท เพื่อรักษาเสถียรภาพการคลังในภาวะเศรษฐกิจโลกผันผวนและต้องมีรายได้รองรับการลงทุน ใช้จ่ายตามยุทธศาสตร์รัฐบาล ซึ่งอธิบดีกรมสรรพากรได้แจ้งว่า ได้เตรียมมาตรการไว้ทั้งหมดแล้ว “กรมสรรพากรต้องไปเตรียมมาตรการจัดเก็บรายได้ให้เพียงพอ ทั้งการขยายฐานภาษีและจะทำอย่างไรให้โครงสร้างการจัดเก็บภาษีเป็นธรรมในระยะยาว” 

รมว.คลัง กล่าวต่อว่า ได้สั่งตั้งคณะทำงานโดยมีปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน ร่วมกับกรมจัดเก็บภาษี และสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบ ทั้งภาษีเงินได้นิติบุคคล และภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยนโยบายลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 10% ยังอยู่ในการศึกษาของคณะทำงานชุดดังกล่าว แม้จะมีการหาเสียง แต่ตอนเลือกตั้ง ไม่สามารถพูดรายละเอียดได้ เมื่อมาเป็นรัฐบาลก็ต้องมีดูทั้งระบบ การยกตัวอย่างตอนหาเสียงจึงเป็นเรื่องปกติ ขณะที่การต่ออายุจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มที่ 7% ที่จะครบกำหนดใน ก.ย.นี้ อยู่ระหว่างการพิจารณา