เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากคดี พี่ยิงน้อง ที่บ้านนาตอง หมู่ 9 ต.ช่อแฮ อ.เมือง จ.แพร่ เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตที่นอนเสียชีวิตอยู่ในพงหญ้า ข้างถนนในหมู่บ้าน ตรงข้ามกับบ้าน ทราบชื่อ นายสนั่น จันทะวงศ์ อายุ 45 ปี สภาพนอนหงายมีเสื้อยืดสีดำถลกขึ้นไปอยู่ที่ลำคอ กางเกงขาสั้นสีฟ้า ในมือขวาถือมีดทำครัว มีสายสร้อยประคำไม่มีพระห้อยคอ ถูกยิงเข้าหน้าอกซ้าย มีรอยกระสุน 3 รู ส่วนมือปืนที่ยิงเป็นพี่ชายผู้ตายชื่อนายฝั่น จันทะวงศ์ อายุ 47 ปี ปลูกบ้านอยู่ในรั้วเดียวกัน ได้รอมอบตัวกับตำรวจ พร้อมกับปืนแก๊ปยาวที่ใช้ก่อเหตุ

จากการสอบสวนนายฝั่น มือปืน ให้การว่า เป็นผู้ยิงน้องชายจริง เนื่องจากไม่ถูกกันมานาน น้องชายเมื่อเมาแล้วก็ชอบหาเรื่อง ก่อนเกิดเหตุได้นัดไปยิงกันที่ป่าช้าท้ายหมู่บ้าน น้องชายถือมีดแล้วถลกเสื้อขึ้นท้าให้ยิงในขณะที่น้องชายถือมีดเดินเข้ามา ตนจึงลั่นไกไป 1 นัด จนน้องชายสะอึก แล้วเดินกลับออกมาจากที่เกิดเหตุมาได้ 80 เมตรก็ล้มลงเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนที่ว่าน้องชายมีพระดีนั้น ตนยังไม่เคยเห็นพระที่ชาวบ้านพูดกันว่า “พระร่วง” ก็คือน้องชายถูกยิงแล้วร่วงต่างหาก

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์นี้เป็นที่กล่าวขานกันมาก โดยเฉพาะในวงพระเครื่อง และชาวบ้านวิพากษ์วิจารณ์กันถึง “พระร่วงรางปืน” ว่าในตัวของผู้ตายมีจริงหรือไม่ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านนาตองอีกครั้ง สอบถามญาติๆ ของผู้ตาย

ที่วัดธรรมมานุภาพ หรือวัดนาตอง หมู่ 9 ต.ช่อแฮ บริเวณศาลาการเปรียญวัด เป็นสถานที่จัดงานศพ นายสนั่น จันทะวงศ์ มีญาติมาร่วมงานศพ พบนายอนันต์ จันทะวงศ์ อายุ 54 ปี พี่ชายผู้ตาย นายเทียนธรรม พงศ์เลิศนรี เพื่อนบ้าน นายอนุวัฒน์ แก้วมณี อายุ 54 ปี มัคทายกวัดนาตอง มาร่วมงานศพในวันนี้

นายอนันต์ จันทะวงศ์ พี่ชาย เผยว่า บ้านตนมีพี่น้อง 7 คน ตนเป็นคนที่ 4 นายฝั่น มือปืน เป็นคนที่ 6 นายสนั่น ผู้ตาย เป็นน้องคนสุดท้อง เวลาเมามักจะมีเรื่องกับนายฝั่นเสมอ พระที่ห้อยคอเห็นว่ามีอยู่ แต่ตนไม่ได้ให้ความสนใจว่าห้อยพระอะไร และตนไม่ใช่นักเลงพระ จึงไม่ทราบเรื่องว่าน้องชายที่รอดตายมาแต่ละครั้ง ถูกยิงมาในแต่ละครั้งนั้นห้อยพระอะไรกันแน่

ด้านนายอนุวัฒน์ แก้วมณี มัคนายก เผยว่า ตนมีบ้านอยู่ติดกับนายสนั่น ผู้ตาย ยืนยันว่าได้เห็นพระที่นายสนั่น ผู้ตายห้อยคอ เป็นพระร่วงรางปืน เนื้อชิน ชัดเจน แต่ไม่ทราบว่าเป็นพระร่วงรางปืนกรุวัดไหน หลังจากถูกยิง พบเพียงห่วงพระติดกับสร้อยคอ ไม่รู้ว่าพระกระเด็นไปไหน ทั้งตำรวจ ชาวบ้าน หากันแล้วไม่พบในที่เกิดเหตุ

“พระที่นายสนั่นผู้ตายห้อยคอนั้น เคยเห็นเป็นประจำ นายสนั่นก็แคล้วคลาด ถูกยิงมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกถูกยิงที่บริเวณหัวไหล่ไม่เป็นไร ครั้งที่ 2 ประมาณ ปี 2558 ถูกยิงด้วยปืนลูกซองสั้น ทางด้านหลัง กระสุนฝังใน แต่ไม่ได้ผ่าเอากระสุนออก เพราะหมอกลัวว่าจะไปกระทบเส้นประสาทหลายเส้น จนเมื่อนายสนั่นถูกพี่ชายยิงเสียชีวิต ทราบมาว่าทางหมอได้ผ่าเอากระสุนที่อยู่ด้านหลังออกมา 6 เม็ด ผู้ตายยังชอบสะสมของเก่า เวลาเงินขาดมือก็เอาไปจำนำบ้าง ขายบ้าง เช่น ขวานทองโบราณ มีดสั้นด้ามงา และยังพระเครื่องอีกหลายอย่าง ญาติๆ คงจะเก็บไว้แล้ว ยอมรับว่าเขามีของดีเยอะ มีครั้งหนึ่งเล่นการพนันเสียเอาพระไปจำนำได้มาหลายหมื่น นั่นแสดงว่าพระนั้นต้องดีจริง”

ร.ต.อ.ณัฐวุฒิ มณีกาศ รองสารวัตรสอบสวน สภ.พระธาตุช่อแฮ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า หลังจากที่ตำรวจศพนายสนั่นไปทำการผ่านชันสูตรที่ รพ.แพร่ พบว่า หน้าอกด้านซ้ายมีกระสุนลูกปรายหลายเม็ด ส่วนกระสุนที่กลางหลังเป็นเรื่องเก่าที่นายสนั่นถูกยิง และคดีสิ้นสุดแล้ว เป็นกระสุนลูกซองที่ฝังอยู่ในตัวนายสนั่นอีก 6 เม็ด ส่วนพระเครื่องในที่เกิดเหตุไม่พบ คืนเกิดเหตุมีฝนตกด้วย พระจึงอาจถูกน้ำพัดพาไปก็ได้

 

 

ภาพและข้อมูลจาก Thairath