กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกโซเชียล เมื่อเฟซบุ๊กเพจ อยากดังเดี๋ยวจัดให้ return.v12 เผยแพร่ภาพข้อความจากกลุ่มปิดกลุ่มหนึ่ง ที่มีความเชื่อเรื่องการดื่มน้ำปัสสาวะตัวเองเพื่อรักษาโรค โดยมีผู้โพสต์ระบุว่า ตัวเองเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว ได้ใส่น้ำปัสสาวะของตัวเองลงไปในน้ำซุปด้วยเพราะหวังดี เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนงานก่อสร้าง เวลามากินที่ร้านชอบบ่นว่าปวดเมื่อย ตัวเองไม่รู้จะแนะนำอย่างไร หากบอกไปตรงๆ ก็กลัวหาว่ากวน เลยแอบใส่ปัสสาวะในน้ำซุป ซึ่งพบว่าได้ผล มีลูกค้าติดเพียบและบอกว่ากินร้านนี้แล้วหายปวดเมื่อย
ล่าสุด (20 สิงหาคม 2562) มีรายงานว่า นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล หรือ หมอกอล์ฟ แพทย์สังคมสื่อสารเพื่อคุณธรรม เปิดเผยว่า แนวคิดเรื่องกินของที่ร่างกายขับทิ้งเพื่อรักษาโรคนั้น มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ สำหรับการกินปัสสาวะ ต้องกินปัสสาวะตัวเองที่บริสุทธิ์ คือหลังจากตื่นนอนตอนเช้าเท่านั้น เพราะยังไม่ได้กินอาหารอย่างอื่นมา เพื่อให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาต้านภัยตัวเอง รักษาโรคได้ เช่น ไขข้ออักเสบ หรือ รูมะตอย เป็นเหมือนฉีดวัคซีน แต่ในปัสสาวะก็จะมาพร้อมสารพิษปนเปื้อนที่ทำให้เกิดกลิ่นฉุน เช่น กรดยูเรีย
สำหรับกรณีที่เทปัสสาวะลงในหม้อก๋วยเตี๋ยว ให้คนอื่นกินแล้วหายเมื่อยนั้น ปกติเมื่อน้ำปัสสาวะโดนความร้อนจากน้ำก๋วยเตี๋ยวที่ต้มจนเดือด พวกแบคทีเรียและเชื้อโรคต่างๆ จะถูกฆ่าเชื้อไปแล้วจึงไม่ได้เป็นอันตราย แม้แต่น้ำอสุจิ หากใส่ลงไปก็ไม่อันตรายเช่นกัน แต่จะไม่ช่วยรักษาโรคใดๆ ซึ่งหากกินเยอะๆ กินเป็นประจำ อาจทำให้เป็นนิ่วได้ เนื่องจากในปัสสาวะมีกรดยูเรีย หากสารตะกอนในกรดยูริกสะสมในร่างกายมากๆ อาจทำให้เป็นนิ่ว ส่วนที่ระบุว่า กินแล้วหายปวดเมื่อยนั้น เป็นไปไม่ได้แน่นอน เพราะเป็นปัสสาวะของคนอื่น ไม่ใช่ปัสสาวะของตัวเราเอง