เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 เว็บไซต์มิเรอร์ รายงานว่า ฟิลลิป เฮอร์รอน พ่อลูกสามชาวอังกฤษ วัย 34 ปี ตัดสินใจจบชีวิตตัวเอง หลังจากประสบปัญหาเครียดรุมเร้ามาเป็นเวลานาน เนื่องจากตกงานหนี้สินท่วมหัว อีกทั้งยังได้รับเงินสงเคราะห์ล่าช้า จนไม่เหลือเงินติดตัวโดยเขาได้ถ่ายภาพเซลฟี่ขณะร้องไห้โพสต์แชร์ความเจ็บปวดลงบนสังคมออนไลน์ซึ่งเป็นโมเมนต์สุดท้ายก่อนที่เขาจะฆ่าตัวตาย

 

ฟิลลิป เป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว ผู้เลี้ยงดูลูกๆ ทั้ง 3 คน มาตามลำพัง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่หนักหนาไม่น้อย ก่อนหน้านี้เขาทำงานเป็นคนงานที่โรงงานแห่งหนึ่ง แต่ก็จำต้องตัดสินใจลาออกเนื่องจากไม่มีใครดูแลลูกที่ยังเล็ก

และเมื่อไม่มีรายได้เขาก็ต้องพยายามอย่างหนักมาก เพื่อประคองครอบครัวให้รอด โดยเขาได้ลงทะเบียนรับเงินช่วยเหลือกับระบบ Universal Credit ของรัฐบาลซึ่งเป็นระบบสวัสดิการสังคมอย่างหนึ่ง คล้ายกับประกันสังคมที่มอบเงินช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ไม่มีรายได้หวังว่าจะได้เงินมาแบ่งเบาภาระได้บ้าง

แต่การจะได้เงินสงเคราะห์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฟิลลิป พบว่ากระบวนการเป็นไปอย่างล่าช้ามาก แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากต้องรออย่างไม่มีความหวัง ปัญหาก็คือเขามีหนี้ติดตัวอยู่ประมาณ 20,000 ปอนด์หรือราว769,250 บาทซึ่งเป็นภาระที่ใหญ่หลวงมากสำหรับคนตกงานแบบเขา และในจำนวนนี้มีเงินที่เขาไปกู้นอกระบบมาด้วยซึ่งก็ต้องผ่อนจ่ายเป็นรายวันพร้อมกับดอกเบี้ยมหาโหดยังไม่นับค่าบ้านที่ต้องจ่ายทุกเดือน

ชายหนุ่มดิ้นรนต่อสู้อยู่ทุกวัน เงินสงเคราะห์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมาถึง ปกติแล้วกระบวนการพิจารณาจะใช้เวลาราว 5 สัปดาห์ แต่กรณีฟิลลิปดันใช้เวลานานหลายเดือน และก็ยังคงไม่ได้รับเงิน จนกระทั่งในที่สุดฟิลลิปก็เหลือเงินติดบัญชีอยู่แค่ 4.71 ปอนด์หรือประมาณ180 บาทและในวันที่ 8 มีนาคม 2562 ฟิลลิปก็ปลิดชีพตัวเองจากไป

การเสียชีวิตของฟิลลิปสร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่งแก่ชีนาวัย 54 ปี ผู้เป็นแม่ของเขา เธอช็อกจนพูดอะไรไม่ออกเพราะไม่เคยคาดคิดว่าลูกชายจะตัดสินใจทำเรื่องแบบนี้ ยิ่งอ่านจดหมายลาตายของเขาก็ยิ่งเศร้า เพราะฟิลลิปบอกว่าถ้าหากตัวเองตายจากไปชีวิตครอบครัวคงดีกว่านี้ด้วยความที่ลูกไม่เคยบอกเธอถึงปัญหาสาหัสในชีวิตชีนาจึงไม่รู้เลยว่าลูกชายลำบากแค่ไหน

ชีนาได้เข้าไปตรวจสอบดูในบ้านของเขาแล้วก็เริ่มเข้าใจทีละเล็กทีละน้อยเธอพบจดหมายทวงหนี้มากมายรวมทั้งหนังสือแจ้งเตือนให้ย้ายออกจากบ้าน เธอยิ่งจุกหัวใจกว่าเดิมเมื่อหลานๆ บอกเธอว่า ซานตาคลอสไม่ได้หาพวกเขาในวันคริสต์มาสซึ่งหมายความว่าฟิลลิปไม่มีเงินซื้อของให้ลูก

เธอยังได้ตรวจสอบดูอีเมลและบันทึกการสนทนาทางโทรศัพท์ของลูกชายแล้วก็พบว่าตลอดระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาลูกชายเปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกินราวกับเป็นคนอื่นที่เธอไม่รู้จัก

ฉันพยายามไล่ย้อนดูชีวิตของเขา ซึ่งฉันก็พบว่าในช่วงไม่กี่เดือนสุดท้ายในชีวิตเขาเขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ ปกติแล้วฟิลลิปจะเป็นคนพูดเบา แต่ฉันได้ยินเขาตะโกนเกรี้ยวกราดตอนคุยโทรศัพท์กับคนอื่น

เขารักลูกๆ หมดใจ แต่ก็เริ่มตะโกนดุด่าพวกเขาฉันยังได้ยินเสียงสะอื้นของเขาได้ยินเขาบอกคนอื่นว่าเขาอยากตาย ฉันได้แต่คิดว่าเขาน่าจะบอกฉันว่ามันเกิดอะไรขึ้นเพราะฉันไม่เคยรับรู้ปัญหาของเขาเลยชีนากล่าวอย่างเจ็บปวด

ชีนาเปิดเผยว่าถ้าหากเธอไม่มาค้นบ้านลูกและไม่เห็นอีเมลหรือไม่ได้ยินบันทึกโทรศัพท์ของเขาเธอคงไม่มีวันได้รับรู้ว่าทำไมลูกถึงฆ่าตัวตายซึ่งทั้งหมดนี้มันบีบหัวใจคนเป็นแม่มากและตัวเธอเองก็รู้สึกผิดมากที่ฟิลลิปตายจากไปฟิลลิปเคยมาเข้าฝันแต่เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็หายไปมันเป็นอะไรที่ทรมานมากลูกสาวคนเล็กของฟิลลิปก็ช็อกอย่างรุนแรงที่พ่อเสียชีวิตหนูน้อยไม่สามารถทำความเข้าใจได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นและได้แต่ร้องคิดถึงพ่ออยู่ทุกวัน

ชีนากล่าวอีกว่าตัวเองผิดหวังกับระบบสวัสดิการสังคมมากเพราะควรจะใส่ใจช่วยเหลือประชาชนมากกว่านี้ถ้าหากประชาชนไม่เดือดร้อนหนักคงไม่ไปขอที่พึ่งแต่ความล่าช้าก็มาทำให้ชีวิตหนึ่งต้องจากไป

ตัวเธออยากให้เรื่องของลูกชายเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนอื่นๆ ว่าถ้าหากมีปัญหาควรเปิดใจปรึกษาครอบครัวหรือคนอื่นก่อนจงไปขอความช่วยเหลือและแก้ปัญหา เพราะเธอไม่อยากให้ใครต้องสูญเสียแบบนี้อีก

 

ข้อมูลจาก Kapook