วันที่ 18 ก.ค. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บริเวณสะพานลอย หน้าวัดพันท้ายนรสิงห์ ถนนพระราม 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังรับทราบว่าจะมีกลุ่มประชาชนคนรักถนนพระราม 2 มารวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่เร่งแก้ปัญหาการก่อสร้างปรับปรุงถนนพระราม 2 เริ่มตั้งแต่ทางแยกต่างระดับบางขุนเทียน – เอกชัย ระหว่าง กม. 9+800 – 21+500 ระยะทาง 11.7 กม. โดยขยายช่องทางหลักจาก 3 ช่องจราจร เพิ่มเป็น 4 ช่องจราจร
พร้อมปรับปรุงช่องทางคู่ขนานเป็น 3 ช่องจราจร ทั้งขาเข้าและขาออก รวมทั้งวางท่อระบายน้ำใหม่ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างเพิ่มเติม ขยายสะพานข้ามคลองบางน้ำจืด สะพานข้ามคลองคอกควาย สร้างสะพานกลับรถที่ กม.16 และสะพานข้ามทางรถไฟใหม่ งบประมาณกว่า 2,310 ล้านบาท ซึ่งมีการก่อสร้างมานานแต่ยังไม่แล้วเสร็จ สร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และผู้ที่มีบ้านเรือนหรือสถานประกอบการอยู่ตรงบริเวณสถานที่ก่อสร้างเป็นอย่างมาก
โดยบรรยากาศตรงจุดที่นัดพบนั้นก็มีประชาชนคนรักพระราม 2 ประมาณ 20 คน มารวมตัวกันถือป้ายที่เขียนข้อความไว้ว่า “ทนไม่ไหวแล้ว ถนนพระราม 2 #รถติดหนักมาก #ถนนเจ็ดชั่วโคตร” พร้อมกันนี้ยังมีจดหมายเปิดผนึกอีก 1 ฉบับที่ทางตัวแทนประชาชนคนรักพระราม 2 เตรียมนำไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งในหนังสือได้เขียนนำเรียนถึง ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และหรือผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เกี่ยวกับเรื่องความเดือดร้อนในการเดินทางบนถนนพระราม 2
มีข้อความในจดหมายเปิดผนึกเขียนว่า “เราประชาชนผู้อาศัยและสัญจรบนถนนพระราม 2 ยินดีและต้องการเห็นบ้านเมืองของเราเจริญพัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้น ซึ่งถนนพระราม 2 เอง เป็นเส้นทางหลัก และสมควรที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องพัฒนา เพื่อที่สร้างเศรษฐกิจประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้น พวกเรารับทราบว่าจะมีความเดือดร้อนความยากลำบากในการเดินทาง และเราก็เตรียมตัวเตรียมใจเพื่อที่จะรับสถานการณ์ไว้ในระดับนึงแล้ว
แต่เนื่องจากสภาพปัจจุบันนี้ พวกเราประชาชนได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักมากเกินกว่าที่จะรับไหว สาเหตุจากทั้งด้านความปลอดภัยในการเดินทางและรถติดขัดอย่างหนักบนถนนพระราม 2 ใช้เวลาเดินทางเป็นเวลานานมากเป็นชั่วโมงหรือบางครั้งหลายชั่วโมงที่จะฝ่าการจราจรให้ผ่านไปได้ เกิดความเสียหายทางจิตใจและทาง เศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง พวกเราจึงขอวิงวอนและขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่าน ได้เข้ามาช่วยบรรเทาและแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้กับประชาชนที่เดือดร้อนในเหตุนี้ด้วยความเคารพอย่างยิ่ง
นายอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง นายกสหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์ว่า การรวมตัวกันในวันนี้ไม่ใช่การประท้วงหรือคัดค้านการสร้างถนนพระราม 2 แต่อย่างใดทั้งสิ้น เพียงแค่ต้องการให้รัฐบาลชุดใหม่หรือผู้มีอำนาจในการควบคุมดูแล เข้ามาบริหารจัดการให้รวดเร็วกว่านี้ เพราะทุกวันนี้การสร้างถนนพระราม 2 แค่ในช่วงระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตรเศษนั้น มีความล่าช้าเป็นอย่างมาก สร้างมาเกือบ 2 ปี แต่ยังไม่แล้วเสร็จ
โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่ต้องใช้ถนนพระราม 2 เดินทางลงสู่ภาคใต้ การขนส่งโลจิสติกส์ ผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ รายจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากค่าน้ำมัน เรื่องของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เนื่องจากไม่มีสัญญาณให้ระวังอันตราย หรืออุปกรณ์ในการเซฟตี้บนถนนไม่ได้มาตรฐาน ยังไม่รวมถึงเวลาที่ต้องเร่งนำส่งผู้ป่วยวิกฤติที่ต้องใช้ความเร่งรีบเป็นอย่างมาก เป็นต้น
ดังนั้นจึงต้องการให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีชุดใหม่เข้ามาดำเนินการแก้ไข เร่งสร้างถนนเส้นนี้ให้เร็วที่สุด เพราะในอนาคตก็ยังไม่รู้ว่าจะมีโครงการสร้างทางต่างระดับหรือโครงการใดๆ บนถนนพระราม 2 อีก ซึ่งหากผู้มีอำนาจยังเมินเฉยไม่เร่งรีบดำเนินการแก้ไขความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านนั้น ทางชาวบ้านก็จะรวมตัวกันเพื่อไปพบกับนายกรัฐมนตรีต่อไป
ขณะที่แม่ค้าที่ขายของริมทาง บอกว่า ถนนเส้นนี้สร้างมานานมาก ไม่ใช่เพียงแค่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเท่านั้น แต่ยังส่งผลถึงพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของริมทางอีกด้วย ทั้งเรื่องของฝุ่นละออง และปริมาณลูกค้าที่ลดลง เพราะเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น จึงทำให้รายได้ของคนหาเช้ากินค่ำในแต่ละวันลดน้อยลง และการสร้างถนนก็ไม่เป็นมาตรฐาน เพราะสร้างแบบเป็นหย่อมๆ อีกด้วย
ส่วนป้าท่านหนึ่งที่มีบ้านอยู่ติดกับถนนพระราม 2 แล้วต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เป็นประจำ เล่าด้วยความอัดอั้นว่า ถนนนี้สร้างนานเกินไปแล้ว ไม่รู้ว่าวิศวกรผู้ควบคุมงานใช้อะไรในการทำงาน ทำไมถึงล่าช้าแบบนี้ บางคนที่เคยมีบ้านอยู่ในพื้นที่ติดกับถนนพระราม 2 ก็ต้องขายบ้านทิ้งหรือปล่อยให้เช่าแล้วก็ไปหาที่เช่าใกล้กับที่ทำงานแทน เพราะรับไม่ไหวกับการที่ต้องเสียเวลานานหลายชั่วโมงในการเดินทาง ซึ่งการทำงานล่าช้านั้น จะไปโทษใครไม่ได้ ต้องโทษที่ผู้ควบคุมงานเท่านั้น
ด้าน พ.ต.ท.วุฒิชัย ทวีกาญจนวัฒน์ สารวัตรจราจร สภ.เมืองสมุทรสาคร กล่าวว่า สภาพการจราจรที่ติดขัดบนถนนพระราม 2 นั้น เป็นสภาพที่เกิดขึ้นในช่วงเขตต่อเนื่องระหว่างเขตแสมดำ กรุงเทพฯ กับ เขตจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ได้จัดรถออกตรวจสภาพพื้นที่อย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน และยิ่งในเวลาที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็ได้จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดเคลื่อนที่เร็วเข้าคลี่คลายเหตุ แต่บางครั้งก็มีข้อจำกัดบ้างจึงทำให้เกิดสภาพการจราจรติดขัด
ซึ่งจุดที่ถือว่ามีการติดขัดมากที่สุดและทำให้เกิดการจราจรติดขัดต่อเนื่องสะสม คือ บริเวณเชิงสะพานข้ามทางรถไฟคอกกระบือ เนื่องจากเป็นคอขวด แต่ทั้งนี้ทางตำรวจจราจร สภ.เมืองสมุทรสาครและ สน.แสมดำ ก็ดำเนินการกันอย่างเต็มที่เพื่อให้เกิดการติดขัดน้อยที่สุด
Cr. ข่าวสด๒