เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 17 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานถึงสถานการณ์ภัยแล้ง จากฝนที่ทิ้งช่วงมาร่วม 2 เดือน ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ พบว่าต้นกล้าข้าวเริ่มทยอยยืนต้นแห้งตายในหลายพื้นที่ แม้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้นำเครื่องบินกรมฝนหลวงและการบินเกษตร มาบินโปรยสารเคมีเพื่อทำฝนเทียมอย่างต่อเนื่องกว่า 1 เดือนแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ

 

ที่อ่างเก็บน้ำอำปึล ต.เทนมีย์ อ.เมือง จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นอ่างเก็บน้ำสำรองน้ำดิบเพื่อปล่อยไปสมทบกับอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ต.เฉนียง (ฉะ-เหนียง) อ.เมือง ไว้ใช้ผลิตน้ำประปาเลี้ยงชุมชนเมือง พบว่าอ่างเก็บน้ำอำปึล แห้งขอดวิกฤตหนักไม่ต่างจากอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง จากความจุของอ่างเก็บน้ำอำปึล ทั้งหมด 27.68 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันเหลือปริมาณน้ำปเพียง 0.94 ล้าน ลบ.ม.เท่านั้น

ขณะที่อ่างเก็บน้ำห้วยเสนงมีความจุทั้งหมด 20.8 ล้าน ลบ.ม.ปัจจุบันเหลือปริมาณน้ำพียง 1.6 ล้าน ลบ.ม.โดยจะต้องใช้น้ำดิบผลิตน้ำประปาให้ชุมชนในเมืองถึงเดือนละ 1 ล้าน ลบ.ม.และคาดว่าจะสามารถใช้ผลิตน้ำประปาเลี้ยงคนเมืองได้อีกประมาณ 1 เดือนเท่านั้น

โดยโครงการชลประทานสุรินทร์ ได้พยายามขุดร่องให้น้ำไหลไปรวมกันที่บริเวณประตูระบายน้ำเพื่อปล่อยน้ำเท่าที่เหลือ ให้ไหลอย่างช้าๆลงไปสมทบกับอ่างเก็บน้ำห้วยเสนงอยู่ในขณะนี้ แต่คาดว่าคงไม่เพียงพอหากฝนยังไม่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนหลังจากนี้ สถานการณ์ภัยแล้งจากสภาวะฝนทิ้งช่วงดังกล่าว ไม่เคยเกิดขึ้นหนักขนาดนี้มาก่อนในพื้นที่ในรอบ 41 ปี เท่าที่มีการสร้างอ่าบเก็บน้ำทั้ง 2 แห่งขึ้นมา

อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ภัยแล้ง จากสภาวะฝนทิ้งช่วงดังกล่าว เริ่มส่งผลกระทบกับประชาชนส่วนใหญ่ที่ใช้น้ำประปาของการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ และกำลังได้รับความเดือดร้อน หลังจากการประปาส่วนภูมิภาคสาขาสุรินทร์ ได้เปิดให้บริการน้ำเป็นช่วงเวลาและลดแรงดันน้ำลง ทำให้หลายชุมชนน้ำไหลน้อยและไม่ไหลเลย

ปัญหาดังกล่าว ทำให้ประชาชนกำลังเดือดร้อนหนัก บางรายถึงกับต้องช่วยตัวเอง ด้วยการหาภาชนะออกไปตักน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆมาเก็บไว้ใช้ที่บ้านกันแล้ว แม้หน่วยงานที่กี่ยวข้องจะพยายามแก้ปัญหาด้วยการนำรถบรรทุกน้ำให้บริการตามชุมชนต่างๆแล้วแต่ก็ยังไม่ทั่วถึง

CR:ข่าวสด