เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ความคืบหน้าจากเหตุศาลาทรงไทยริมแม่น้ำแม่กลองทรุดถล่ม เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (16 ก.ค.) เป็นเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสูญหายไปนั้น ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 00.00 น. ของวันนี้ (17 ก.ค.) เจ้าหน้าที่ได้พบร่างผู้ที่สูญหายไปแล้ว 1 ราย กลายเป็นศพเสียชีวิตติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังใต้น้ำ พร้อมกับกู้ร่างขึ้นมาบนฝั่งเป็นที่เรียบร้อย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปฏิบัติการค้นหาร่างผู้สูญหายจากเหตุศาลาริมน้ำแม่กลองทรุดถล่ม เริ่มต้นตั้งแต่เวลาประมาณ 17.00 น. วานนี้เป็นต้นมา โดยมีเจ้าหน้าที่หน่วยงานทั้งภาครัฐเอกชน 11 หน่วยงาน ระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย นักประดาน้ำ 36 นายโดยแบ่งกำลังนักประดาน้ำ 6 ชุด แบ่งเป็นชุดละ 2 นาย ใช้เวลาในดำประมาณ 15-20 นาที ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนทีมกัน

โดยวางแผนการดำเนินงานกันลงสำรวจอาคารศาลาที่พังในแม่น้ำแม่กลอง ตรงจุดดังกล่าวมีความลึกประมาณ 8 เมตร ห่างจากฝั่งเกือบ 10 เมตร ทำให้กลายเป็นอุปสรรคอย่างมาก เนื่องจากน้ำไหลเชี่ยว ประกอบกับใต้น้ำมืดในช่วงกลางคืน และศาลาที่ถล่มลงไปกลายเป็นซากปรักหักพังอยู่ใต่น้ำ ทำให้ยากต่อการสำรวจ

เจ้าหน้าที่จะลงสำรวจอาคาร จากนั้นจะนำทุ่นไปผูก เพื่อกำหนดพิกัดมุมของอาคาร ก่อนจะวางแผนเข้าค้นหาผู้สูญหายอย่างเข้มข้น โดยเชื่อว่าร่างน่าจะถูกซากอาคารทับอยู่ใต้น้ำ หรืออาจจะลอยน้ำไปแล้ว กระทั่งช่วงกลางดึก เจ้าหน้าที่พบร่างของ นางสุรี อายุ 37 ปี เป็นแม่ค้าขายน้ำ ที่ถูกโครงสร้างอาคารส่วนมุมของร้านค้าทับร่างอยู่

หลังจากนั้น จึงได้ประสานงานใช้รถเครนยกโครงสร้างอาคารขึ้นอย่างระมัดระวัง และในที่สุดเวลา 00.00 น. ที่ผ่านมา จึงสามารถนำร่างของนางสุรีขึ้นมาบนฝั่งได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เจ้าหน้าที่จะทำการค้นหา นางสาวพรพิไล อายุ 24 ปี ชาวสมุทรสงครามที่แวะมาทานข้าวระหว่างเกิดเหตุ ยังระดมทีมปูพรมค้นหาตลอด จนกว่าจะเจอผู้สูญหายดังกล่าว

ผู้สื่อข่าวยังรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับศาลาริมน้ำแห่งนี้ เป็นอาคารคาดว่าก่อสร้างสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2515 หรือ 47 ปี มาแล้ว และมีการดัดแปลงต่อเริ่ม กระทั่งกลายเป็นร้านขายของริมน้ำในปัจจุบัน ทำให้โครงสร้างอาคารที่ถูกน้ำกัดซัดเป็นเวลาหลายปีไม่สามารถรองรับน้ำหนักเอาไว้ได้ จึงเป็นสาเหตุที่อาจจะทำให้ศาลาพังถล่มลงสู่น้ำแม่กลองก็เป็นไปได้

 

CR:sanook