วันที่ 8 ก.ค. เกียวโดนิวส์ รายงานคดีสะเทือนขวัญกรณีความรุนแรงของครอบครัวใน ประเทศญี่ปุ่น อีกครั้ง หลังจากตำรวจพบศพของ น.ส.อิบูกิ คิซู วัย 18 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัย ถูก นายฮิเดกิ คิซู พ่อวัย 43 ปี ฆาตกรรมและยัดร่างใส่ตู้แช่ที่ร้านขายขนมหวานของในแขวงอารากาวะ กรุงโตเกียว เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
หลังจากญาติแจ้งความว่านายคิซูโทรศัพท์มาบอกว่าพลั้งมือใช้มีดแทงลูกสาวคนโตจนตายเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 6 ก.ค. และกำลังจะกระโดดแม่น้ำปลิดชีพ อย่างไรก็ตาม ตำรวจรุดตามหา แต่ไม่ทันการ เจอศพนายคิซูผูกคอฆ่าตัวตายใกล้ๆ สะพานข้ามแม่น้ำในเมืองไซตามะ ทางตอนเหนือของกรุงโตเกียว
เจ้าหน้าที่ระบุว่า สภาพศพน.ส.อิบูกิมีร่องรอยถูกบีบบริเวณคอเพียงที่เดียว ไม่มีบาดแผลถูกของมีคมแทงตามที่ชายผู้เป็นพ่อโทรศัพท์ไปบอกญาติ และตำรวจกำลังเร่งสอบสวนหาสาเหตุ ด้านหญิงสูงวัยที่เปิดร้านขายดอกไม้ในย่านเดียวกับนายคิซู ให้สัมภาษณ์ว่า น.ส.อิบูกิเป็นคนอ่อนหวานและเงียบขรึม ส่วนนายคิซูเป็นพ่อที่รักลูกๆ มาก ตนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวนี้กันแน่ถึงได้เกิดเรื่องน่าเศร้าเช่นนี้
ก่อนหน้านี้เพิ่งมีคดีช็อกประเทศ กรณี ด.ญ.มิยะ คูริฮาระ วัย 10 ขวบ ที่ถูกพ่อลงโทษทำร้ายจนถึงแก่ความตายเมื่อเดือนม.ค.2562 หลังถูกทำร้ายมานาน แม้จะเคยขอความช่วยเหลือจากครู แต่เกิดความผิดพลาดในการประสานงานของเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ได้ตรววจสอบปัญหาอย่างถี่ถ้วน จนนำไปสู่ควาามสูญเสียที่เป็นตราบาปของสังคมญี่ปุ่น
