ความคืบหน้ากรณีอุบัติเหตุ รถกระบะที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูง ย้อนศรชนรถจักรยานยนต์ 10คันรวด มีคนเจ็บ15คน เสียชีวิต2คนบริเวณสี่แยกไฟแดงพัทยาใต้ ทราบชื่อ นายอัครเดช อุดมรัตน์ อายุ 44 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าขณะเกิดเหตุตนเองขับมาจามปกติจากนั้นก็ไม่รู้สึกตัวอีกเลย มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าขับชนรถชาวบ้านพังยับเยินเกลื่อนถนนแล้ว โดยมีโรคประจำตัวคือโรคลมชัก ซึ่งเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจไม่พบแอลกอฮอล์ชายคนขับแต่พบสารเสพติดในร่างกาย เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก.สภ.เมืองพัทยา เปิดเผยว่าเบื้องต้นได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ ซึ่งไม่พบ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจสารเสพติดที่ โรงพยาบาลบางละมุง พบว่ามีสารเมทแอมเฟตามิน หรือ ยาบ้า ภายในร่างกาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา คือ ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นเสียชีวิต ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และ ขับรถโดยใช้สารเสพติด
“เมื่อคืนที่ผ่านมานั้นช่วง 23.00 น.นายอัครเดช อุดมรัตน์ อายุ 44 ปี ได้เกิดอาการชักจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์ได้มาทำการปฐมพยาบาลก่อนรีบนำตัวส่ง รพ.บางละมุง เพื่อทำการปฐมพยาบาลจนถึงช่วง 05.00 น. แพทย์จึงได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวมา. สภ เมืองพัทยา”พ.ต.อ.อภิชัยกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในช่วงบ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวไปสอบสวนเพิ่มเติม โดยมีญาติของ นาย อัครเดช โวยวายสื่อมวลชนที่มาบันทึกภาพ ในขณะที่สื่อสังคมออนไลน์มีการคอมเม้นท์กันว่าคนที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างบอกว่าตอนเข้าไปจับตัวนาย อัครเดช ได้กลิ่นเหล้าฟุ้ง และทราบว่านายอัครเดช ค่อนข้างมีเส้นสายพอสมควร จึงตั้งข้อสังเกตุว่านายอัครเดชเป็นเจ้าของบาร์เบียร์แห่งหนึ่งในถนนคนเดินวอล์คกิ้งสตรีท พัทยาใต้ เมืองพัทยา จ.ชลบุรี นั้นอาจจะมีส่วนทำให้คดีบิดเบือนหรือป่าว
ที่มา – มติชน