เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดจับกุมขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญได้คดีผู้ต้องหา 4 คน เป็นชาวจีน 2 คน และชาวไทย 2 คน ในข้อหา “ร่วมกันครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท1 (ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางยาไอซ์น้ำหนักประมาณ 1,000 กิโลกรัม มูลค่ามากกว่า 2 พันล้านบาท บรรจุซ่อนอำพรางอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์สินค้าประเภทรองเท้า เมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพบว่า 1 ในผู้ต้องหาชาวไทย คือ นายสุบรรณ มหาชนนท์ ผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อของพรรคเสรีรวมไทยลำดับที่ 50

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. ที่บช.ปส. พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส. เปิดเผยว่า คดีนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมนายสุบรรณพร้อมพวกรวมทั้งหมด 4 ราย โดยแถลงผลการจับกุมไปเมื่อวันที่ 16 มิ.ย.ที่ผ่านมา มีหลักฐานสำคัญเป็นภาพนายสุบรรณเดินเข้าไปตรวจตู้คอนเทนเนอร์ดังกล่าว ก่อนเจ้าหน้าที่จะบุกเข้าไปจับกุมพบนายสุบรรณกับผู้ต้องหาอีก 3 คน อยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งนี้จากการสอบสวนเบื้องต้นนายสุบรรณได้ให้การปฎิเสธ โดยระบุว่า ไม่รู้ภายในตู้คอนเทนเนอร์เป็นอะไร ทราบเพียงเป็นรองเท้าเท่านั้น ส่วนจะมีผู้ที่เกี่ยวข้องระดับสูงไปกว่านายสุบรรณนั้นหรือไม่อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐาน โดยเช็กเส้นทางการเงินแล้วพบว่ามีการหมุนเวียนผิดปกติ แต่ยังไม่สามารถเปิดเลยรายละเอียดได้ ส่วนจะเกี่ยวข้องไปกับพรรคการเมืองใดหรือไม่นั้นขณะนี้ยังไม่พบ

“ส่วนเรื่องการยึดทรัพย์ได้ประสานเจ้าหน้าที่ป.ป.ง. ตรวจสอบแล้วแต่ยังไม่สามารถสรุปได้ ทั้งนี้ได้มีการส่งตัวนายสุบรรณไปฝากขังเรียบร้อยแล้วพร้อมคัดค้านการประกันตัวเนื่องจากมีอัตราโทษสูงและเกรงว่าจะหลบหนี ล่าสุดทราบว่านายสุบรรณยังถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ” รองผบช.ปส. กล่าว

 

ต่อมา พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. เปิดเผยภายหลังการประชุมติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญว่า การขยายผลจนถึงขณะนี้ไปได้เยอะพอสมควรถือว่าผู้ต้องหาเป็นตัวการสำคัญรายใหญ่และอยู่ในระดับคนสั่งการจากพยานหลักฐานที่มีอยู่ ส่วนจะทำมากี่ครั้งแล้วนั้นอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่มีพยานหลักฐานเอาผิดอย่างแน่นหนาในที่เกิดเหตุถึงแม้เจ้าตัวจะปฏิเสธก็ตาม ส่วนจะเกี่ยวข้องไปถึงใครคนอื่นในพรรคการเมืองหรือไม่นั้น เบื้องต้นยังไม่พบ ตอนนี้ขอรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมก่อนว่าจะมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องอีกหรือไม่

พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวต่อว่า ทั้งนี้การขนยาไอซ์ จำนวน 1,000 กิโลกรัม ไปต่างประเทศนั้นถือว่ารายใหญ่พอสมควร โดยปลายทางของยาไอซ์ล็อตนี้กำลังจะถูกส่งไปยังประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนต้นทางนั้นอยู่ระหว่างการสืบสวนและน่าจะมีตัวการที่ใหญ่กว่านายสุบรรณ เพราะไม่สามารถทำเองคนเดียวได้

CR:dailynews