เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

กรณีเพจเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมโพสต์เรื่องราวของ ..วัย 5 ขวบ นักเรียนอนุบาล 3 โรงเรียนแห่งหนึ่ง .อุบลราชธานี ถูกนักเรียนชายห้องเดียวกัน 2 คน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นักเรียนชั้น .2 ล่วงละเมิดทางเพศ จากนั้นแจ้งเรื่องไปทางโรงเรียนเหตุการณ์ผ่านมา 5 เดือน ยังไม่ได้รับการเยียวยาจากทางคู่กรณี และโรงเรียน ล่าสุด สั่งฟัน ผอ...ดังกล่าวไปปฏิบัติราชการที่ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงรู้ผลใน 7 วัน

วันที่ 17 มิ..62 ว่าที่ ..ธนุวงษ์ จินดา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานผลการสืบข้อเท็จจริง กรณีปู่และย่าเด็กหญิง วัย 5 ขวบ ที่อ้างว่า ถูกเพื่อนระดับชั้นอนุบาลและรุ่นพี่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ล่วงละเมิดเหตุเกิดในโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.) ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี จากคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงฯที่มีนายธีร์ ภวังคนันท์ หัวหน้าศูนย์เฉพาะกิจคุ้มครองและช่วยเหลือนักเรียน(ฉก.ชน.) เป็นประธานเรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายละเอียดเชิงลึกตนไม่สามารถบอกได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็ก

แต่เฉพาะข้อมูลจากการที่คณะกรรมการสืบฯ ลงไปพื้นที่ไปเก็บข้อมูลสืบพยาน จากผู้เกี่ยวข้องทั้งที่โรงเรียนและใช้ข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการเป็นหลัก ทั้งนี้ พบว่าโรงเรียนมีมาตรการดูแลนักเรียนและปฏิบัติตามนโยบายของสพฐ.ค่อนข้างดี เช่น การแยกโซนเด็กอนุบาล เด็กประถมศึกษาชัดเจนการจัดพักกลางวันไม่คนละเวลา เป็นต้น

ว่าที่ ..ธนุ กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุการณ์เกิดขึ้นที่โรงเรียนจริงหรือไม่จากการสืบข้อเท็จจริงก็ยืนยันว่า เหตุเกิดขึ้นที่โรงเรียนแต่ช่วงที่เกิดเหตุคาดว่าเป็นช่วงพักเที่ยง ที่ผู้อำนวยการโรงเรียนหรือครูอาจจะหลงตาดูแลไม่ทั่วถึง เพราะเด็กมีจำนวนมาก

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลดังกล่าว ตนสั่งการให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา(สพป.) อุบลราชธานีเขต 3 ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลไปดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง ผู้อำนวยการโรงเรียนและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนจะกี่รายขึ้นอยู่กับสพป.อุบลราชธานี เขต 3 ที่ดำเนินการตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรง

เหตุที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเกิดขึ้นในโรงเรียนตามความเห็นของคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริงประกอบกับความเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการที่สรุปมาตรงกันแต่ที่ให้สอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงเนื่องจากโรงเรียนเองก็มีมาตรการในการดูแลเด็กไม่ได้ประมาทเลินเล่อร้ายแรงแต่อาจจะด้วยเหตุที่เกิดช่วงพักเที่ยงซึ่งการตั้งกรรมการสอบวินัยไม่ร้ายแรงผอ.โรงเรียนยังมีผู้เกี่ยวข้องเช่นครูเวรครูประจำชั้นส่วนจะทั้งหมดกี่รายอยู่ที่สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ส่วนโทษของการสอบสวนวินัยไม่ร้ายแรงมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ตัดเงินเดือนและลดขั้นเงินเดือนว่าที่ ..ธนุกล่าว

ผู้ช่วยเลขาฯ กพฐ. กล่าวต่อว่า ส่วนผลการสืบข้อเท็จจริงชุดของ สพป.อุบลราชธานี เขต 3 ตนยังไม่รายงาน แต่เบื้องต้นสพป.อุบลราชธานีเขต3 แจ้งว่ารอข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจและอัยการส่วนการดำเนินการกับผู้อำนวยการสพป.อุบลราชธานี เขต กรณีไม่รายงานเรื่องมายังสพฐและดำเนินการล่าช้านั้น เบื้องต้นตรวจสอบแล้วพบว่า ตั้งแต่เกิดเหตุมีการรายงานมายังสพฐ.1 ครั้ง ซึ่งนานมากแล้ว แต่อ้างว่ารอเอกสารต่างๆ จึงไม่ได้รายงาน

ซึ่งกรณีนี้ไม่ถึงขั้นผิดวินัยแต่จะได้ว่ากล่าวตักเตือนว่าต่อไปหากเกิดเหตุลักษณะนี้ให้เร่งรายงานโดยเร็ว นอกจากนี้ นายสุเทพ ชิตยวงษ์ เลขาธิการกพฐ. กำชับให้ไปทบทวนมาตรการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้เข้มข้นว่ามีจุดอ่อนตรงไหนและปรับปรุงให้เหมาะสมกับสถานการณ์ เพื่อใช้ในการดูแลนักเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

 

ภาพและข้อมูลจาก Khaosod