ภาพคลิป รปภ.อายุ 60 กว่าปีและลูกชาย ถูกชายฉกรรจ์ยกพวกมารุมทำร้าย ล่าสุดแจ้งความแล้ว คาดสาเหตุรถไม่มีสติกเกอร์และไม่ยอมแลกบัตรเข้าคอนโด
แฟนเพจเฟซบุ๊ก เฮีย โพสต์คลิปกล้องวงจรปิดเหตุทะเลาะวิวาท ซึ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลา 02.18 น. วันที่ 7 มิ.ย. 2562 ที่ผ่านมา โดยต้นคลิปมีรถกระบะสีดำคันหนึ่งขับเข้ามาในพื้นที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง ขณะนั้นมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนอยู่ที่ป้อม ต่อมาไม่นานรถกระบะคันเดิมขับออกมาแล้วจอด
จากนั้นชายฉกรรจ์ 3 คนลงจากรถ ซึ่งหนึ่งในนั้นตรงเข้าทำร้ายเจ้าหน้าที่ รปภ.ชุดสีดำ และผลักจนล้มลงกับพื้น อีกทั้งยังใช้เท้าเตะ รปภ.คนนี้ถึง 2 ครั้ง แล้วยกพวกเข้าไปรุม รปภ.อีกคนหนึ่ง เมื่อ รปภ.ชุดดำพยายามเข้าไปช่วย กลับถูกคู่กรณีจับล็อกคอรุมต่อยและกระทืบ ทั้งนี้ พบว่าชายฉกรรจ์ผู้ก่อเหตุกลุ่มดังกล่าวมีราว 5-6 คน
ทั้งนี้ มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ณัฐวุฒิ ปานสมสวย แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์อ้างตัวว่า รปภ.ที่ถูกทำร้ายเป็นพ่อและน้องชาย ว่า คุณพ่อที่ถูกทำร้ายอายุ 60 กว่าปี และบริเวณสะโพกคุณพ่อก็ใส่เหล็กอยู่ด้วย รู้สึกสงสารทั้งคู่จนพูดไม่ออก อยากจะเป็นคนเจ็บแทน หลังเกิดเหตุได้มีการแจ้งความและเจ้าหน้าที่มีการออกหมายเรียกกลุ่มผู้ก่อเหตุแล้ว ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กอีกรายอ้างว่าเกิดจากเรื่องการแลกบัตร กลุ่มคนรุมมาหาผู้หญิงที่คอนโดมิเนียม แต่ไม่มีสติกเกอร์จอดรถ และไม่ยอมแลกบัตร อาจจะเกิดความโมโห วันต่อมาจึงพาพวกมารุม
สอบถามไปยัง นายณัฐวุฒิ ลูกชายของ รปภ.ที่ถูกทำร้าย กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังเกิดเหตุคุณพ่อถูกพักงาน ตอนนี้ก็พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ส่วนอาการบาดเจ็บมีปากแตก ฟกช้ำ เจ็บหน้าอก แต่ที่เป็นห่วงคือคุณพ่อเคยขาหักและมีการดามเหล็กเอาไว้ ส่วนน้องชายหน้าตาปูดบวม มีรอยช้ำที่หน้าอกและหลัง ซึ่งภายหลังเกิดเหตุได้พาคุณพ่อไปแจ้งความ แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจระบุว่าเป็นการทะเลาะวิวาททั้ง 2 ฝั่ง ทั้งที่คุณพ่อถูกทำร้ายก่อน
“เรื่องเริ่มตั้งแต่วันที่ 3 มิ.ย. รถคันนี้ขับเข้ามาส่งผู้หญิง พ่อผมก็ทำตามหน้าที่ต้องแลกบัตรเพราะไม่มีสติกเกอร์คอนโด แต่เขาบอกว่าไม่มีบัตร ไม่ได้เอามาและคล้ายว่าน่าจะดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย แล้วก็พูดเสียงดัง คิดว่าน่าจะมีการโต้เถียงกัน จนกระทั่งราวเที่ยงคืนวันที่ 6 มิ.ย. เขาขับรถกลับมาก่อเหตุ”
อย่างไรก็ตาม นายณัฐวุฒิ บอกด้วยว่าหลังแจ้งความจนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไร เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่ารู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้วแต่ก็ไม่ได้ติดต่อกลับมา ส่วนตัวคิดว่าผู้ก่อเหตุวางแผนมาก่อน ตอนนี้ก็ได้แต่รอความคืบหน้าทางคดีตามขั้นตอน
