เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

เป็นโพสต์ที่สาวคนหนึ่งอยากบอกให้โลกรู้ถึงความซาบซึ้งระหว่างเธอกับพ่อ ซึ่งหลายคนอาจคิดว่า ก็ธรรมดาใครๆ ก็รักพ่อ แต่สมาชิกเฟซบุ๊กรายนี้ Richie Anne Castillo ซึ่งเป็นชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งเธอมีพ่อเป็นดาวน์ซินโดรม และมีอายุครบ 50 ปี โดยชีวิตวัยเด็กของเธอถูกล้อเลียนจากเด็กคนอื่นๆสารพัดเพราะมีพ่อป่วยด้วยโรคนี้ โดยเรีกยเธอว่า เด็กประหลาด จนทำให้เธออับอาย และไม่อยากบอกว่าพ่อคือใคร จนเกือบละทิ้งครอบครัวและพ่อของเธอ แต่สุดท้ายเธอก็ตระหนักได้ว่า พ่อมีความหมายแค่ไหน และอยากบอกเรื่องราวดีๆ นี้ให้ทุกคนรู้

โดยเธอเขียนเรื่องของเธอลงในเฟซบุ๊ก ระบุว่า ” ถึงพ่อ วันนี้เป็นวันที่พิเศษที่สุดในชีวิต ที่พ่อมีอายุครบ 50 ปี ซึ่งแม้แต่หมอเองก็ไม่เชื่อว่า พ่อจะมีอายุยืนยาวขนาดนี้เมื่อเทียบกับผู้ป่วยโรคนี้ ฉันเขียนเรื่องนี้แม้ว่าพ่อจะไม่มีเฟซบุ๊ก แต่ก็อยากบอกให้กับโลกได้รู้ ว่า ภูมิใจแค่ไหนที่มีพ่อเป็นพ่อ และพ่อมีความงามทั้งกายและใจ

“พ่อคะ หนูต้องใช้เวลานานหลายปี กว่าที่หนูจะกล้าพอในการยอมรับความจริงและสู้หน้าใครหลาย ๆ คน เพราะหนูเคยเป็นคนขี้ขลาด ซึ่งพ่อสมควรได้รับสิ่งที่ดีกว่านี้ ดีกว่าลูกสาวที่ขี้ขลาดแบบหนู พ่อสมควรได้รับสิ่งที่คนดาวน์ซินโดรมหลาย ๆ คนควรได้ นั่นก็คือ ความรัก ความเข้าใจ ความใส่ใจ รวมทั้งการเป็นที่ยอมรับเหมือนคนอื่น ๆ และหนูก็ไม่เคยมอบมันให้พ่อ พ่อสมควรได้รับอะไรมากกว่านั้น” ริชชี่ กล่าวถึงพ่อของเธอให้ทุกคนได้รับรู้

 

 

หญิงสาวกล่าวว่า พ่อคือผู้ชายที่เข้มแข็งและกล้าหาญที่สุดเท่าที่เธอเคยพบเจอมาในชีวิต ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พ่อพบเจอกับความยากลำบากมานับไม่ถ้วน เขาต้องใช้ชีวิตโดยที่มีข้อห้ามมากมาย ต้องเข้า-ออกโรงพยาบาลอยู่ตลอด กินยานั่น ใช้ยานี่ เข้ารับการผ่าตัดซ้ำแล้วซ้ำแล้ว ถูกเข็มเจาะร่างกายมาจนพรุน แต่เขาต่อสู้กับมันโดยแทบไม่เคยปริปากบ่น และไม่ลืมที่จะมองลูกด้วยรอยยิ้ม รอยยิ้มที่บ่งบอกว่า “พ่อไม่เป็นไร พ่อไหว”

พ่อคือคนที่เข้มแข็งที่สุด เพราะไม่ว่าจะต้องนอนโรงพยาบาลมากี่คืน ต้องเจ็บต้องเหนื่อยมาแค่ไหน พ่อก็ยังคงยิ้มเสมอ พร้อมกับบอกว่า ‘พ่อไม่กลัวหรอกลูก เพราะพ่อมีความศรัทธา’ พ่อคือคนที่กล้าหาญที่สุด เพราะพ่อผ่านความเจ็บปวดมามากเหลือเกิน แต่พ่อไม่เคยกลัวที่จะเผชิญมัน ซึ่งหนูจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าหนูต้องเจอแบบพ่อ มันจะเลวร้ายขนาดไหน”

ในช่วงเวลาหนึ่ง อาการเจ็บป่วยของพ่อริชชี่รุนแรงมาก มากจนทำให้คนเก่งที่อดทนมาตลอดชีวิต เกือบจะไม่สามารถทนกับความทรมานต่อไปได้ไหว ริชชี่ เล่าว่า ในช่วงที่พ่อเป็นหนัก พ่อแทบจะขยับขาไม่ได้เพราะเจ็บปวดหัวเข่ามาก เขาร้องไห้ออกมาเพราะความทรมาน ริชชี่ได้ยินพ่อพูดอย่างอ่อนล้าว่า “เหนื่อยเหลือเกิน” และ “เจ็บเหลือเกิน”

ทำให้เธอร้องไห้ทั้งวันทั้งคืน เพราะความสงสารพ่อ เธอไม่อยากจะกลับโรงพยาบาลเพื่อต้องไปเห็นพ่อถูกตรึงอยู่บนเตียงอย่างทรมาน เธอกล่าวว่าตัวเองไม่รู้หรอกว่าพ่อต้องเจ็บแค่ไหน แต่ในตอนนั้น เธออยากขอรับความเจ็บทุกอย่างจากพ่อมาไว้ที่ตัวเอง

 

 

“พ่อคะ มันไม่สามารถมีคำใดมาอธิบายได้เลยว่าหนูเสียใจแค่ไหนที่เคยเป็นลูกที่ห่างเหิน ไม่ดูแลพ่อให้ดีกว่านี้ หนูอยากขอโทษที่ไม่ได้พาพ่อออกไปชายหาดบ่อย ๆ หนูอยากขอโทษที่ไม่ได้พาพ่อไปกินติ่มซำร้านโปรดของพ่อให้มากกว่านี้ และหนูขอโทษที่ไม่ได้มาหาพ่อบ่อย ๆ

สิ่งที่เสียใจมากที่สุดก็คือ การที่หนูปลีกหนีตัวเองออกจากพ่อ เพราะว่าหนูยังคงเป็นเด็กมีปมคนเดิมในวันนั้น แต่สิ่งที่หนูอยากบอกคือ หนูรักพ่อเหลือเกิน รักมากกว่าที่พ่อจะรับรู้ได้ และพ่อก็เป็นแรงบันดาลใจสำคัญในชีวิตหนูเสมอ”
ริชชี่ เผยอีกว่า ทุกคนที่รู้จักพ่อของเธอ ต่างก็เอ็นดูพ่อเพราะ มีแต่สร้างเสียงหัวเราะและรอยยิ้มให้กับทุกคน แต่มันก็มีวันที่พ่อแกล้งให้คนอื่นปวดหัว รวมทั้งยังมีวันที่เขารู้สึกแย่ ขับไล่ไสส่งทุกคนรวมทั้งลูก ซึ่งเธอเข้าใจเป็นอย่างดี พ่ออาจจะใจร้ายหรืออย่างไรก็ได้ เพราะชีวิตมันมีทั้งวันที่ดีและแย่เสมอ ดังนั้นมันไม่เป็นไร และการที่เขาแตกต่างกว่าคนอื่น มันก็ไม่เป็นไรเช่นกัน

หญิงสาวกล่าวอีกว่า ที่เธอกลายเป็นคนเข้มแข็งและแข็งแกร่งได้อย่างทุกวันนี้ เป็นเพราะเธอได้สิ่งนั้นมาจากพ่อ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือ ความรักที่เธอมีให้พ่อ จะไม่มีวันลดลง และมีแต่เพิ่มขึ้น

 

 

“หนูสามารถเล่าเรื่องราวของพ่อได้ทั้งวันเลยล่ะ แต่มันคงจะยาวมากเกินไป สุขสันต์วันเกิดครบ 50 ปี นะคะ ! ขอบคุณที่เรียกหนูว่าเป็นลูกสาวหนึ่งเดียวของพ่อ เพราะหนูเป็นอยู่เสมอ หนูแกร่งและกล้าเพราะพ่อ หนูโตขึ้นจนสามารถไฝว้กับพวกขี้แกล้งได้ก็เพราะพ่อ หนูรักพ่อมากที่สุดเลยละ”

โดยโพสต์ของริชชี่ถูกแชร์ไปมากกว่า 65,000 ครั้ง และได้รับการกดไลก์มากกว่า 203,000 ครั้ง แม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าไม่ใช่ลูกที่ดีหรือสมบูรณ์แบบ แต่ในที่สุดก็หันกลับมาหาครอบครัว และมอบความรักให้คนที่สำคัญที่สุดในชีวิต