เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราว ที่มีคนใช้มีดฟันสุนัข 2 ตัว ที่ถูกล่ามโซ่เอาไว้ เพราะโดนสุนัขเห่าใส่ตอนเดินผ่าน ทำให้ตัวแรกกะโหลกแบะสมองทะลักส่วนอีกตัวโดนฟันปากขาดฟันหายไปทั้งแถบ ด้านเจ้าของไม่มีเงินพาไปรักษานั้น

ล่าสุด (1 มิถุนายน2562) มีรายงานว่า นางบุญหนา อายุ 52 ปี ชาวบ้านบ้านโนน หมู่ 5 .โพนข่า .เมือง .ศรีสะเกษซึ่งเป็นเจ้าของสุนัขที่โดนฟันทั้ง 2 ตัวเผยว่าตัวแรกชื่อ น้องดี้เป็นสุนัขเพศเมีย อายุ 2 ปี 4 เดือน มีบาดแผลโดนฟันที่บริเวณปากด้านขวา ทำให้ปากฉีกขาดอ้าออก เนื้อห้อยฟันหายไปทั้งแถบ ไม่สามารถกินอาหารได้สะดวกส่วนสุนัขอีกตัวหนึ่ง ชื่อน้องขนสุนัขเพศเมีย อายุเท่ากันมีบาดแผลโดนของมีคมฟันที่บริเวณหัวทำให้กะโหลกแบะมีสมองทะลักออกมาเล็กน้อย

โดยเหตุการณ์ เกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ขณะที่ตนไปทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ตัวเมืองศรีสะเกษ ระหว่างนั้นเพื่อนบ้านโทรศัพท์มาแจ้งว่าสุนัขทั้ง 2 ตัวที่ตนล่ามโซ่เอาไว้ถูกคนร้ายใช้มีดฟันได้รับบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบกลับมาบ้านและพาสุนัขทั้ง 2 ตัวไปพบสัตวแพทย์ทันที ซึ่งสัตวแพทย์ได้รีบรักษาอาการของน้องขนที่กะโหลกศีรษะแบะออกและได้เย็บแผลอย่างเร่งด่วน ส่วนน้องดี้ซึ่งโดนฟันปากขาดสัตวแพทย์แจ้งว่าหากจะเย็บแผลของน้องดี้ จะต้องใช้เงินค่ารักษาพยาบาลจำนวน 10,000 บาท แต่ว่าตนมีเงินไม่พอไม่สามารถที่จะรักษาพยาบาลน้องดี้ได้อย่างเต็มที่ ส่วนค่ารักษาของน้องขนตนก็ได้ต่อรองค่ารักษาเหลือเพียง 5,000 บาท

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ตนได้ไปพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สภ.เมืองศรีสะเกษ เพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีกับคนร้ายซึ่งตนทราบแล้วว่าเป็นญาติสนิทของตน เพราะว่ามีพยานยืนยันชัดเจนว่า เป็นคนใช้มีดสปาต้าฟันสุนัขทั้ง 2 ตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ข้อเสนอแนะว่าคดีนี้โทษหนักมากจึงให้ตนมาเจรจาค่าเสียหายกับพ่อแม่ของคนร้าย

โดยพ่อแม่ของคนร้ายได้ยอมรับผิดและยินดีรับผิดชอบค่าเสียหายที่เกิดขึ้นและได้จ่ายเงินค่ารักษาคืนให้ตนจำนวน5,000 บาท ซึ่งตนก็ไม่ติดใจเอาความ เพราะเห็นว่าคนร้ายเป็นหลานของตนหากแจ้งความดำเนินคดีก็จะเสียประวัติและไม่สามารถสอบเข้าทำงานอะไรได้

ทั้งนี้ ปกติแล้วคนร้ายจะเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่พอดื่มเหล้าเข้าไป จะมีนิสัยอันธพาลชอบทำลายข้าวของภายในบ้าน ครอบครัวมีฐานะยากจน ตนจึงไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายมากไปกว่าเท่าที่จ่ายไปจริง

อย่างไรก็ตาม ตนสงสารน้องดี้อย่างมากไม่รู้ว่าจะหาเงินจากที่ใดไปทำการรักษาจึงต้องนำมาให้นอนรอความตายอยู่ที่บ้าน