เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

จากกรณีเจ้าของเฟซบุ๊ก Chonlakorn Phansaart Tent โพสต์ข้อความร้องทุกข์ โดนกล่าวหาว่ารุมโทรมเด็ก 14 ปีที่ .แม่สาย .เชียงราย แต่ไม่พบหลักฐานว่ามีส่วนเกี่ยวข้องศาลยกฟ้องแล้ว แต่ต้องเสียอนาคตสภาพจิตใจย่ำแย่เกือบถูกปาดคอในเรือนจำไร้ที่ยืนในสังคมจึงหวังทวงคืนความเป็นธรรมนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 24 พฤษภาคม 2562 มีรายงานว่า .. ชลกร พันธุ์สอาด ผู้ร้องทุกข์ เปิดใจว่าเมื่อปี 2558 คืนเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 . รุ่นพี่ชวนไปกินเหล้าตนเองจึงไปกินเหล้าบ้านรุ่นพี่รวมแล้ว 4 คน หลังจากนั้น มีสายเรียกเข้ารุ่นพี่ได้คุยโทรศัพท์มือถือก่อนจะวางสาย แล้วบอกว่าเดี๋ยวจะมีน้องๆ มานั่งกินด้วยจะได้หรือไม่ตนเองจึงบอกว่ามาได้ไม่เป็นอะไร

ต่อมาประมาณ 18.00 . ตนเองขี่จักรยานกลับไปเปลี่ยนเอารถยนต์ไปส่งรุ่นพี่ที่บ้านสันกอสา .4 .บ้านโป่ง .แม่สาย .เชียงราย ห่างจากบ้านรุ่นพี่ประมาณ 12-13 กิโลเมตร โดยฝ่ายหญิงนั่งหน้ารถมาคู่กับตน 1 คน ตอนนั้นไม่รู้ว่าผู้หญิงอายุ 14 ปี โดยลักษณะเป็นผู้หญิงผิวเข้มตัวดำ และอ้วนตัวใหญ่มาก พี่บอกว่าเป็นรุ่นน้องเคยมากินเหล้าที่บ้าน 2-3 ครั้งแล้วตนเองก็ไม่คิดอะไรขับมาส่งที่บ้าน และนั่งดื่มกินกันต่อหลังจากนั้น 19.45 . ตนเองก็ขอตัวกลับบ้านเพื่อจะไปดูแลลูกและไม่ได้กลับไปกินเหล้ากับรุ่นพี่อีกเลย

วันรุ่งขึ้นเพื่อนมาบอกว่า ตนเองโดนแจ้งความจับคดีข่มขืน โดยตนเองเป็นจำเลยที่ 1 ยอมรับว่าตกใจมาก จึงเดินทางไปหารุ่นพี่ที่ดื่มเหล้าด้วยกันในคืนนั้นอีก 3 คน พบว่ารุ่นพี่ยังเมาค้างไม่ได้สติกันอยู่ และไม่เห็นผู้หญิงคนดังกล่าวรุ่นพี่บอกว่าไม่รู้ว่าโดนแจ้งความได้อย่างไร แต่ฝ่ายหญิงจะเรียกเงินคนละ 4 หมื่นบาท แลกกับการไม่ดำเนินคดี ตนเองจึงถามเพื่อนรุ่นพี่ว่าได้ทำอะไรไหมรุ่นพี่ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไร ตนเองจึงบอกว่าถ้าไม่ได้ทำเราไม่ผิดก็ไม่ต้องให้เงิน และเดินทางกลับกรมทหารเพื่อแจ้งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาทราบ

หลังจากนั้นตนเองตกเป็นข่าวดัง จึงเดินทางไปมอบตัวและศาลส่งฟ้องแต่ตนเองประกันตัวได้ 1 ปี 1 เดือน ศาลชั้นต้นนัดฟังคำพิพากษาว่า ตนเองมีความผิดคดีอนาจารความผิดพรากผู้เยาว์และถูกขังที่เรือนจำ แต่ตนเองยังสู้ต่อชั้นศาลอุทธรณ์จนมีการยกฟ้องคดีข่มขืน แต่ยังติดคดีพรากผู้เยาว์ เพื่ออนาจารอยู่ต่อมาศาลฎีกาพิพากษายกฟ้องคดีข่มขืน และยกฟ้องความผิดคดีอนาจารเหลือแต่ความผิดพรากผู้เยาว์ เพราะตนเองไปรับเด็กผู้หญิงต้องจำคุก 2 ปี 8 เดือน โดยรุ่นพี่ทั้ง 3 คนโดนจำคุกเหมือนกันหมด ซึ่งระหว่างอยู่ในเรือนจำตนจะใช้คำว่าลำบากยังน้อยไป เพราะเกือบโดนนักโทษด้วยกันปาดคอ แต่รอดมาได้เพราะมีคนช่วย

หลังจากนั้นวันที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ตนเองพ้นโทษออกมาพบว่า ภรรยาหอบลูกหนีกลับไปอยู่บ้านครอบครัวพังชีวิตพัง และยังไม่ได้กลับเข้ารับราชการ จึงอยากเตือนสังคมว่าอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นกับเราได้เมื่อไรผู้หญิงอันตรายเขาอาจจะมาดื่มเหล้ากับเราเขาอาจจะมายิ้มกับเราแต่เราจะไม่รู้เลยว่าหลังจากนั้นอะไรจะเกิดขึ้นกับเราเหมือนที่ตนเองโดน

 

 

 

ภาพและข้อมูลจาก อมรินทร์ทีวี