เมื่อวันที่ 14 พ.ค.62 ที่ผ่านมา ร.ต.อ.พงษ์ฤทธิ์ รักไทย รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี รับแจ้งจากศูนย์ 191 มีเหตุลักทรัพย์รถยนต์กระบะ ที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี โดย น.ส.ปิยะนุช พาแก้ว อายุ 29 ปี เป็นเจ้าของรถ แจ้งว่า คนร้ายเข้ามาขับกระบะยี่ห้ออีซูซุดีแม็คออกไปจากบ้านโดยที่กุญแจรถยังอยู่ภายในบ้าน
โดย น.ส.ปิยะนุช ได้ระบุว่า ที่รถคันดังกล่าวตนได้ซ่อนโทรศัพท์มือถือไว้ในรถซึ่งสามารถตรวจสอบจีพีเอสเพื่อติดตามรถได้ โดยระหว่างเกิดเหตุตนและสามีกำลังทำธุระอยู่ในบ้านก็ได้ยินเสียงขับรถออกไป โดยไม่ทราบว่าใครเป็นคนขับไป เพราะกุญแจรถก็ยังอยู่ในบ้าน เมื่อมั่นใจว่ารถถูกโจรกรรมสามีจึงได้ออกตามหารถแต่เป็นความโชคดีที่ตั้งสตินึกขึ้นได้ว่าแอบเอามือถือเก่ามาเปิดระบบจีพีเอสแล้วนำไปซ่อนไว้ในรถกระบะของสามีเพื่อติดตามดูพฤติกรรมไม่ให้หนีไปเที่ยวดื่มสุรากับเพื่อน เมื่อเปิดระบบดูก็พบว่ารถได้วิ่งไปจอดอยู่แถวบ้านดอนแคซอย 28 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบจนกระทั่งติดตามคืนได้ในที่สุด
โดยเจ้าหน้าที่พบรถจอดไว้ในบ้านร้าง ในหมู่บ้านมัณฑนา ซอย 28 ม.6 ต.ขามใหญ่ อ.เมืองอุบลราชธานี โดยถอดแผ่นป้ายทะเบียน ทั้งด้านหน้า และด้านหลังออก เพื่อปิดบังอำพรางตรวจสอบกล้องวงจรปิดใกล้เคียงพบรถยนต์ของน.ส.ปิยะนุชเข้ามาจอดภายในบ้านร้าง เวลาประมาณ 21.31 น.หลังจากนั้นได้มีชายเดินจากรถเข้าไปในบ้านฝั่งตรงข้ามที่คนร้ายเอารถมาจอด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าไปตรวจสอบภายในบ้านหลังดังกล่าว พบนายเอ(นามสมมุติ) ชาวบ้านกระโสบ ต.กระโสบ อ.เมืองอุบลราชธานี และนางสาวบี (นามสมมุติ) แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้าน
นายเอให้การปฏิเสธอ้างว่า ไม่มีส่วนรู้เห็นกับรถที่ถูกโจรกรรม ต่อมานายวุฒิไกร สังขรมย์ อายุ30 ปี สามีของน.ส.ปิยะนุชเข้ามาสังเกตการณ์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจพูดคุยกับนายพงษ์จำได้ว่านายเอเป็นเซลล์ที่ขายรถคันดังกล่าวให้ตน เมื่อปี 61 ครั้งนั้น นายเอ เป็นผู้ที่นำรถมาส่งให้ที่บ้าน และให้กุญแจรถให้เพียงดอกเดียวเท่านั้น ส่วนดอกสำรองไม่มีมาให้
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวนายเอและน.ส.บีมาสอบถามที่สภ.เมืองอุบลราชธานีเนื่องจากมีความบังเอิญที่รถของผู้เสียหายถูกนำมาซ่อนฝั่งตรงข้ามบ้านอีกทั้งเป็นผู้ขายรถคันดังกล่าวให้ผู้เสียหายเป็นคนบ้านเดียวกันกับที่เกิดเหตุขั้นต้นทั้งสองคนยังคงให้แย้งกันเองปฏิเสธไม่เกี่ยวข้องกับการโจรกรรมครั้งนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้ใดเพียงแต่นัดเข้ามาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกครั้งในช่วงบ่าย