วันที่ 9 พฤษภาคม 2562 ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการเข้ารายงานตัวเป็น ส.ส. ชุดที่ 25 ต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 2 เป็นไปอย่างคึกคัก มี ส.ส.ที่ได้รับการรับรองจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เข้ารายงาน ตั้งแต่เวลา 08.30 น.
ทั้งนี้ เวลา 09.30 น. มีกลุ่มส.ส.ของพรรคพลังประชารัฐ นำโดย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ส.ส.บัญชีรายชื่อ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ นำคณะ ส.ส. ทั้งระบบเขตเลือกตั้ง และบัญชีรายชื่อ เข้ารายงานตัว
จากนั้นนายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์มั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐสามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ หลังจากที่ กกต. ประกาศรับรอง ส.ส.ทั้งระบบเขตและระบบบัญชีรายชื่อแล้วเสร็จ เพราะพรรคการเมืองอื่นที่ประกาศจะจัดตั้งรัฐบาลแข่งนั้น ได้เสียงไม่ถึง 250 เสียง และจากเสียง ส.ส.ที่พรรคพลังประชารัฐได้รับขอให้ยุติการใช้คำพูดที่ให้ถือคะแนนนิยม ที่เลือกส.ส. ส่วนกรณีที่พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่ท้วงติงการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่ให้ส.ส.กับพรรคการเมืองขนาดเล็กซึ่งคะแนนนิยมไม่ถึงเกณฑ์ค่าเฉลี่ยได้ส.ส. และเตรียมฟ้องร้อง กกต.นั้น แม้เป็นสิทธิที่ทั้ง 2 พรรคทำได้ แต่ตนไม่ขอออกความเห็นหรือยุ่งเกี่ยว
“พรรคพลังประชารัฐบอกกับประชาชนไว้ว่าจะตั้งรัฐบาลได้ ซึ่งตอนนี้เป็นที่แน่นอนว่าเราทำได้เกิน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะได้เสียงส.ส. เกิน 250 เสียง ส่วนการจะประกาศจัดตั้งรัฐบาลอย่างไรนั้น ผมขอให้เป็นไปตามครรลอง” นายสมศักดิ์ กล่าว
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่ารัฐบาลที่จัดตั้งจะมีเสียงปริ่มน้ำและการทำงานไม่ราบรื่น ตนกลับมองว่า พรรครัฐบาลหลายพรรคอาจจะอยู่ได้นานกว่ารัฐบาลเสียงข้างมากเพียงพรรคเดียว เพราะการทำงานร่วมกับหลายพรรคต้องใช้การบริหารจัดการด้วยความรัก ความสามัคคี ดังนั้นเมื่อใช้หลักการบริหารงานร่วมกัน ตนเชื่อว่าจะเป็นรัฐบาลที่อยู่ได้นาน และไม่เป็นไปตามคำปรามาสที่หลายคนเคยระบุว่ารัฐบาลหลายพรรคอาจสร้างปัญหาวุ่นวาย
นายสมศักดิ์ ยังกล่าวโดยมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ในฐานะแคนนิเดตนายกฯของพรรคพลังประชารัฐ ได้เป็นนายกฯอีกสมัยแน่นอน ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล หรือพิจารณาบุคคลใดดำรงตำแหน่งฝ่ายบริหารนั้น ต้องรอให้การพิจารณาเลือกนายกฯแล้วเสร็จก่อน