เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ส่งตัว ฝากขังศาลจังหวัดฉะเชิงเทราแล้ว พ่อข่มขืนลูก ม.6 วัย 17 นาน 4 ปีเต็ม เผยสาเหตุจากครอบครัวแตกแยกทำให้ต้องอยู่กันแต่เพียงลำพังจนเกิดเหตุการณ์

วันที่ 27 เม.ย.62 เวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมสารคาม ได้นำตัว นายวินัย (สงวนนามสกุล) อายุ 61 ปี ผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าก่อคดีข่มขืนบุตรสาวตนเองวัย 17 ปี เดินทางไปขออำนาจศาลจังหวัดฉะเชิงเทราฝากขังแล้ว หลังกระบวนการสอบสวนปากคำเสร็จสิ้น และนำพาผู้ต้องหาไปชี้จุดทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังที่บ้านเลขที่ 101/6 ม.3 ต.เกาะขนุน อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ขณะเดียวกันจากการสอบสวน นายวินัย อย่างละเอียดของพนักงานสอบสวนทราบว่า สาเหตุที่เป็นฉนวนทำให้เกิดเหตุการณ์ที่เกินกว่าสังคมจะยอมรับได้ในครั้งนี้ เกิดจากครอบครัวแตกแยก โดยนายวินัยบอกว่า มีความสัมพันธ์กับลูกสาวของตนเองจริง โดยอ้างว่าวันที่เกิดเหตุได้ดื่มสุรามีอาการเมา และเข้าไปนอนในบ้านกับลูกโดยได้ลงมือลูบคลำตามร่างกายของลูก และลูกไม่มีอาการขัดขืน จนกระทำการเรื่อยไปจนเสร็จกิจ และมีความสัมพันธ์กันเรื่อยมาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับสารภาพตามข้อกล่าวหารวม 2 ข้อหา ตามมาตรา 277 ในข้อหากระทำชำเราเด็กซึ่งอายุยังไม่เกิน 15 ปี (เนื่องจากเริ่มก่อเหตุมาตั้งแต่เมื่อปี 2558) ซึ่งมิใช่ภรรยาหรือสามีของตนโดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี และปรับตั้งแต่ 8 หมื่นถึง 4 แสน และดำเนินคดีตามมาตรา 285 ให้มีโทษเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งในสามหากกระทำผิดต่อผู้สืบสันดาน หรือผู้ที่อยู่ในความดูแลปกครองควบคุมตามหน้าที่ ซึ่งจะทำให้ต้องได้รับโทษที่หนักเพิ่มขึ้นไปอีก

สำหรับเรื่องแผ่นซีดีลามกอนาจารที่พบเป็นจำนวนมากนั้น นายวินัย อ้างว่าชอบสะสมเก็บไว้มาตั้งแต่เมื่อสมัยยังหนุ่มจนถึงปัจจุบัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นพบภายในบ้านเป็นจำนวนมากดังกล่าว ส่วนในเมมโมรี่การ์ดโทรศัพท์มือถือนั้น ยังไม่พบคลิปลามกอนาจารหรือภาพที่ถ่ายไว้แบล็คเมล์แต่อย่างใด ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการค้นหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ตามสื่อต่างๆ ที่ตรวจยึดมาได้ต่อไป

ขณะเดียวกันเด็กสาววัย 17 ปี ที่ถูกผู้เป็นบิดาของตนเองข่มขืนกระทำอนาจารนั้น ขณะนี้ยังอยู่ในความดูแลของสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการสอบปากคำจากทางฝ่ายของบุตรสาวซึ่งเป็นผู้เสียหาย และขณะนี้ทราบว่าผู้เป็นมารดาของเด็กสาววัย 17 ปี ซึ่งได้เดินทางไปอยู่ยังที่ประเทศออสเตรเลียหลังจากเลิกราไปจากนายวินัยผู้เป็นสามี จะเดินทางมารับตัวไปอยู่ด้วย