เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ลูกสาวคนโต “รองตี๋” สะอื้นไห้ รับศพพ่อและแม่ เหยื่อเสี่ยเบนซ์เมาแล้วขับ ทำพิธีเชิญดวงวิญญาณจุดเกิดเหตุ ส่วนน้องแพรว ลูกคนเล็ก ยังอยู่ไอซียู รู้สึกตัวตอบสนองได้แล้ว เขียนถาม “พ่อแม่อยู่ไหน”

วันที่ 17 เม.ย. น.ส.ศุภาพิชญ์ งามสุวิชชากุล หรือน้องพลอย อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนอัสสัมชัญคอนแวนต์ ลูกสาวคนโต พ.ต.ท.จตุพร งามสุวิชชากุล หรือ “รองตี๋” รอง ผกก. (สอบสวน) กก.2 บก.ป. ซึ่งเสียชีวิตพร้อมนางนุชนาฎ งามสุวิชชากุล อายุ 44 ปี ผู้เป็นภรรยา จากเหตุถูกเสี่ยเบนซ์คู่กรณีเมาแล้วขับรถพุ่งชน ได้เดินทางมายังสถาบันนิติเวช รพ.ศิริราช พร้อมญาติๆ มารับศพพ่อและแม่ ด้วยความโศกเศร้า

จากการสอบถาม น.ส.ขนิษฐา เลิศวรจักรพงษ์ อายุ 45 ปี พี่สาวของ นางนุชนาฎ ผู้ตาย เล่าว่า เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตนและ น.ส.ศุภาพิชญ์ เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุเพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณของ พ.ต.ท.จตุพร และ นางนุชนาฎ มาที่โรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะทำการรับศพ ไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดตรีทศเทพ โดยจะมีการรดน้ำศพวันนี้เวลา 16.00 น. และมีพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 16:30 น. จากนั้นจะตั้งสวดพระอภิธรรมเป็นเวลา 3 วัน ก่อนที่จะฌาปนกิจในวันเสาร์ที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 14.00 น

ส่วนอาการของ ด.ญ.พิชญาภา งามสุวิชชากุล หรือน้องแพรว อายุ 12 ปี ลูกสาวคนเล็กของผู้ตาย ที่อยู่ระหว่างรักษาตัวที่โรงพยาบาลกรุงเทพ น.ส.ขนิษฐา ตอบทั้งน้ำตาว่า น้องแพรว ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู หลานสาวรู้สึกตัว และตอบสนองได้แล้ว โดยสามารถสื่อสารได้ด้วยการเขียนข้อความในกระดาษ โดยคำแรกที่หลานสาวเขียนคือ “พ่อ แม่ อยู่ไหน?” ทางครอบครัวได้แต่ตอบกลับว่า “พ่อแม่บาดเจ็บกำลังรักษาตัวอยู่อีกโรงพยาบาลยังมาเยี่ยมไม่ได้” จำเป็นไม่บอกความจริงแก่น้องสาว เพราะหวั่นว่าอาจกระทบกระเทือนสภาพจิตใจ หากร่างกายยังไม่แข็งแรง ส่วนสภาพจิตใจของน้องพลอย หลานคนโต ยังไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้ เนื่องจากยังร้องไห้ฟูมฟาย ตนและญาติๆ ต้องช่วยกันปลอบตลอดเวลา

ส่วนบรรยากาศที่ศาลา 5 วัดตรีทศเทพวรวิหารซึ่งเป็น ฌาปนสถานของข้าราชการตำรวจ มีการตั้งศาลาเพื่อทำพิธีศพ รองผู้กำกับการและภรรยา โดยมีพวงหรีดจากคนใกล้ชิดทยอยส่งมาแสดงความอาลัย โดยจะมีการสวดทั้งหมด 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 17-19 เม.ย.นี้ และจะฌาปนกิจในวันที่ 20 เม.ย.นี้ เวลา 16.00 น.

ด้าน นายสมชาย เวโรจน์พิพัฒน์ เสี่ยเบนซ์ผู้ก่อเหตุ ได้เดินทางมาร่วมแสดงความเสียใจที่วัดดังกล่าวด้วยเช่นกัน โดยทางครอบครัว ยังไม่สะดวกในการพูดคุยหรือเจรจาใดๆ เกี่ยวกับข้อเสนอที่ นายสมชาย ตัดสินใจจะอุปการะและเยียวยาเด็กทั้งสองในวันที่ขาด บิดาและมารดา อย่างไม่หวนกลับ