เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 13 เม.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีวัยรุ่นไปร่วมงานบวชที่วัดสิงห์ แล้วบุกไปทำร้ายครู นักเรียน ร.ร.วัดสิงห์ขณะกำลังสอบนั้น ว่า คดีนี้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาธนบุรี 3 ได้มีคำสั่งฟ้องและยื่นฟ้องนายมนตรี หรือ อุ๊ พูลทรัพย์ กับพวก รวม 22 คน ต่อศาลอาญาธนบุรีแล้วเมื่อวันที่ 11 เม.ย 62 เวลา 16.30 น. เป็นคดีดำของศาลแล้ว และอัยการขอคัดค้านการประกันตัวของจำเลยทั้ง 22 คน โดยบรรยายฟ้องขอให้ศาลลงโทษสถานหนัก

นายโกศลวัฒน์ กล่าวอีกว่า อัยการได้ฟ้องผู้ต้องหาในข้อหาร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันบุกรุกเข้าไปกระทำการใดๆ อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นโดยปกติสุข โดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์, ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อร่างกาย เสรีภาพ และทรัพย์สินของผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้น หรือจำยอมต่อสิ่งนั้น โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป, กระทำอนาจารแก่บุคคลอายุกว่าสิบห้าปีโดยใช้กำลังประทุษร้ายและโดยบุคคลนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ ต่อหน้าธารกำนัล, บริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวัดโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย การที่จำเลยเป็นความผิดต่อกฎหมายและบทมาตราดังนี้ คือ  ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 91, 92, 215,278, 281, 295, 309, 358, 362, 365พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 26) พ.ศ. 2560 มาตรา 4, 11 พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2530 มาตรา 4ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 9 พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551มาตรา 3, 31, 42 รวมบทบัญญัติที่ให้รับโทษทั้งหมด 11 ข้อหา

และขอให้ลงโทษสถานหนัก อัยการโจทก์ได้บรรยายฟ้อง ว่าการกระทำของจำเลยกับพวกเป็นการกระทำที่ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมาย อาศัยที่มีพวกมากบุกรุกเข้าไปในโรงเรียน ทำร้ายเด็กนักเรียน และครูผู้คุมสอบ ทั้งผู้หญิง ผู้ชาย โดยไม่เลือกว่าเป็นใคร ทั้งที่ไม่รู้จักและไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกันมาก่อน เป็นการข่มเหงรังแกผู้อื่นเพื่อความสะใจ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับบุคคลอื่นและเพื่อความสงบสุขของสังคมโดยรวม ขอศาลได้โปรดลงโทษจำเลยตามอัตราโทษขั้นสูงของกฎหมาย

หากจำเลยขอประกันตัว โจทก์ขอคัดค้าน เนื่องจากจำเลยมีเป็นจำนวนมาก ไม่เคารพยำเกรงต่อกฎหมายจึงอาจหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน โดยศาลนัดถามคำให้การจำเลยวันที่ 17 เมย.นี้ เวลา 09.00 น. โดยเบิกตัวจำเลยมาจากเรือนจำ

นายโกศลวัฒน์ กล่าวต่อว่า เป็นอีกหนึ่งคดีตัวอย่างที่จะเป็นบทเรียนของสังคม รักลูกหลานสอนให้เขาเป็นคนดี รักเพื่อนควรห้ามเพื่อน ไม่ทำผิดกฎหมาย ไม่ทำความเดือดร้อนให้ผู้อื่น เพราะความทุกข์จะกลับไปสู่คนในครอบครัว ผู้ก่อเหตุร้ายละเมิดกฎหมายเสียเอง