เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

วันที่ 7 เม.ย. 62 นายคารม พลพรกลาง ว่าที่ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคอนาคตใหม่ และกลุ่มนอสท. กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ที่ผ่านมา ตนและทนายความที่รวมตัวกัน 10 กว่าคน ได้เดินทางไปร่วมให้กำลังใจนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สน.ปทุมวัน และร่วมรับฟังการซักถามจาก 12 ตัวแทนของนานาชาติที่ร่วมสังเกตการณ์กับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. พบว่า จากประสบการณ์การทำคดีการเมืองตลอด 10 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะคดีสลายการชุมนุมของกลุ่มนปช.นั้น ครั้งนี้ถือว่า มีตัวแทนจากนานาชาติให้ความสนใจมากที่สุด

นายคารม กล่าวต่อว่า โดยประเด็นที่ตัวแทนจากนานาชาติให้ความสนใจซักถามมากที่สุดคือการฟ้องคดีนายธนาธร ซึ่งได้รับการชี้แจงว่า เป็นการดำเนินคดีจากปี 2558 ที่คสช.มีอำนาจเต็มรูปแบบ โดยคสช.เป็นผู้มอบหมายให้ พ.ต.อ.บุรินทร์ ทองประไพ ฝ่ายกฎหมายคสช.แจ้งความ ประกอบกับคำสั่งคสช.ที่ให้คดีความมั่นคงต้องขึ้นศาลทหาร ซึ่งตัวแทนจากนานาชาติมองว่า คดีความมั่นคงตามม.116 ถือเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถือเป็นอาญาแผ่นดิน การดำเนินคดีต้องปรากฏพฤติกรรมร้ายแรง และมีพยานหลักฐานพร้อมจริงๆ จึงจะดำเนินคดีได้

นายคารม กล่าวอีกว่า ทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตตามที่นายธนาธรให้สัมภาษณ์กันว่า ทำไมเจ้าหน้าที่จึงเลือกดำเนินดคีในช่วงเวลานี้ ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ประกาศรับรองผลการเลือกตั้ง ทั้งที่ยังมีเวลาดำเนินคดีอีกมาก นอกจากนี้ ยังมีตัวแทนจากสหประชาชาติมาแนะนำตนว่า ส.ส.ที่จะเข้าสภาควรดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้สอดคล้องต่อหลักสิทธิมนุษยชนสากลต่อไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นชุดกฎหมายความมั่นคง กฎหมายคอมพิวเตอร์ ที่ถูกนำมาใช้กับผู้เห็นต่างอย่างกว้างขวาง

นายคารม กล่าวว่า ส่วนกลุ่มนอสท.ต่อจากนี้ ก็จะร่วมกลุ่มทำกิจกรรทางการเมืองกันต่อไป โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือนักการเมืองและส.ส.ในคดีทางการเมือง และติดตามนโยบายาสาธารณะของภาครัฐ ที่ก่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชน ทั้งเศรษฐกิจสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยการทำงานในลักษณะภาคประชาสังคมร่วมกับส.ส.ในสภาต่อไป

 

ข้อมูลจาก Khaosod