จากกรณี ด.ช.ภาคิน อายุ 1 ขวบ 7 เดือน หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยจากบ้านพัก ในพื้นที่ ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ลงค้นหาในคลองชลประทานสาย 3 หมู่ 3 ต.ท่าคอย อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี แต่ก็ยังไม่พบแต่อย่างใด ล่าสุดตำรวจได้นำสุนัขตำรวจช่วยค้นหา ส่วนพ่อก็พึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอให้เจอลูกไม่ว่าจะอยู่ในสภาพไหนก็ตาม ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 5 เม.ย. นางอารยา ขรัวลำหาญ อายุ 26 ปี มารดาของ ด.ช.ภาคิน คิดตลอด อายุ 1 ขวบ 7 เดือน เปิดใจทั้งน้ำตา กรณีถูกโลกโซเชี่ยลโจมตี ว่าเป็นแม่ขายลูกกิน หรือ เป็นคนที่เอาลูกไปฆ่าแล้วอำพรางนั้น
นางอารยา กล่าวว่า ตนเห็นข่าวที่โจมตีตนมากมาย ซึ่ง ตนอยากจะชี้แจงว่า ตนมีลูก 2 คน คนโต ชื่อน้องภู อายุ 7 ปี และ น้องภาคิน อายุ 1 ขวบ ที่หายไป ในกระแสข่าวที่แพร่ออกไป บอกว่าตนขายลูกกิน เพราะ มีนักข่าวไปสัมภาษณ์น้องภู เพราะน้องภู อยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งตอนแรก น้องภูบอกว่า เห็นว่าน้องภาคินเดินไปตกน้ำในคลองหน้าบ้าน แต่เมื่อมาถามอีกรอบกลับบอกว่า เห็นว่าตนได้อุ้มลูกไปให้ผู้ชายใส่ชุดทหารและขึ้นรถไป จึงทำให้ประเด็นนี้แพร่กระจายไปทั่ว ตนจึงไปถามน้องภูอีกครั้ง ซึ่งตอบไม่ตรงกันเลย เพราะปกติแล้ว น้องภู จะเป็นคนชอบพูด เจออะไรมาก็จะพูดไปเรื่อยเปื่อย
“ในฐานะแม่ ใครๆ ก็ต้องรักลูกมาก เพราะลูกเป็นเลือดเนื้อเชื้อไข เลือดในอก ลูกเป็นเหมือนชีวิตของเรา ไม่มีแม่คนไหน ไม่เสียใจ ถ้าหากลูกหาย ทุกวันนี้ยังกินไม่ได้ นอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าจะทำใจไว้บ้างแล้วแต่ก็ยังมีหวัง ว่าน้องจะยังมีชีวิตอยู่ ยืนยันว่า ไม่เคยขายลูกกินหรือคิดจะทำร้ายลูกเลย” นางอารยา กล่าว
นางอารยา กล่าวว่า ส่วนเพื่อนบ้าน ที่ออกมาบอกว่าโจมตีตนนั้น ตนอยากจะชี้แจงว่า ปกติครอบครัวของตนไม่ได้สุงสิงกับเพื่อนบ้านมากนัก เพราะตนอาศัยอยู่กลางสวนมะม่วง ไม่ได้มีบ้านติดกันกับเพื่อนบ้าน ซึ่งแตกต่างจากบ้านต่างจังหวัด ปกติก็จะอยู่กับญาติพี่น้อง ตอนเช้าก็ออกไปทำงาน กลับมาก็เย็นแล้ว ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า ทางเพื่อนบ้านทำไมถึงได้โจมตีตน บางครั้งคนที่ให้สัมภาษณ์ตนไม่เคยเห็นหน้าและไม่เคยรู้จักด้วยซ้ำ
นางอารยา กล่าวต่อว่า บางคนบอกว่า ตนลูกหายและไม่ร้องไห้หรือเสียใจ ตนให้สัมภาษณ์สื่อมาตลอดมาลูกตนหาย ต้องพูดเรื่องราวซ้ำๆ ตนร้องไห้มาตลอด จนไม่มีน้ำตาจะร้อง มันช้ำไปหมด แต่ตนก็ต้องเข้มแข็ง เพราะตอนนี้ยังหาลูกไม่เจอ หากตนเป็นอะไรไป ทางญาติก็จะเดือดร้อนไปด้วย
ภาพและข้อมูลจาก Khaosod