มีรายงานว่าพบหญิงผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพอุบัติเหตุที่อ้างว่าสาเหตุเกิดจากผู้ขับรถปอร์เช่ เคย์แมน เอส (Porsche Cayman S) ที่อยู่ในสภาพเสียหายหนัก ชนรถจักรยานยนต์มีผู้บาดเจ็บ 1 ราย และเสียชีวิต 1 ราย อีกทั้งยังชนร้านซ่อมรถและร้านรับซื้อของเก่าที่มีรถจักรยานยนต์ รถตู้ และรถซาเล้งจอดอยู่ใกล้บริเวณได้รับความเสียหาย เหตุการณ์เกิดขึ้นบนถนนพุทธมณฑลสาย 3 ซอย 5
โดยผู้โพสต์เป็นรุ่นพี่ที่สนิทของผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิตกล่าวอ้างถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ได้รับข่าวร้ายนี้ราวๆ 03.00 น. วันที่ 15 มี.ค. 2562 มีรุ่นน้องโทรศัพท์มาบอก โดยน้องเติ้ล อายุ 24 ปี มีลูกอายุ 2 ขวบ เจ้าตัวถูกรถปอร์เช่ชนกระเด็นไปกระแทกกับผนังขาขาด 1 ข้าง ขณะที่กำลังดิ้นด้วยอาการบาดเจ็บได้โทรศัพท์หาแฟนหนุ่ม และเมื่อแฟนมาถึงเจ้าตัวก็เสียชีวิตไปต่อหน้า ส่วนน้องโอ๋ อายุ 24 ปีเช่นกัน เพื่อนรักของน้องเติ้ล ที่เป็นคนขับขี่รถจักรยานยนต์บาดเจ็บสาหัส ขาขาด 1 ข้าง และแพทย์เตรียมตัดแขนอีก 1 ข้างที่ไม่ได้อยู่ในสภาพปกติ ขณะนี้ยังอยู่ในห้องไอซียู อวัยวะภายในก็บอบช้ำและฉีกขาด ทำให้ลูกที่กำลังตั้งครรภ์ได้ราว 2-3 เดือนต้องจากไป ส่วนพ่อแม่ของน้องโอ๋ก็เสียชีวิตไปแล้วทั้งคู่
ผู้โพสต์ยังอ้างต่อไปว่า มีพยานในเหตุการณ์เห็นคนขับรถปอร์เช่มีรถอีกคันมารับตัวไปในจากที่เกิดเหตุ คนขับไม่ได้ลงมาดูผู้บาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิตที่ถูกชน นอกจากนี้ ยังมีพยานอีกรายที่กล่าวอ้างว่าเห็นคนขับรถปอร์เช่ดื่มสุราในร้านแห่งหนึ่งก่อนเกิดอุบัติเหตุ แต่เมื่อไปที่ร้านเพื่อขอดูกล้องวงจรปิดกลับได้รับคำตอบว่าถูกลบออกไปแล้ว ทำให้ยิ่งเกิดข้อสงสัยกับเหตุที่เกิดขึ้น อีกทั้งรับรู้เพียงว่าคนขับรถปอร์เช่ถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาล และยังไม่มีฝ่ายคู่กรณีติดต่อมา ทางด้านพ่อและแฟนของน้องเติ้ลก็รู้สึกเสียใจมากๆ และยังตั้งตัวไม่ถูกกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ตัวเธอก็ไม่ได้เป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์จึงไม่สามารถบอกได้ว่าใครเป็นฝ่ายผิด โดยพยายามขอดูกล้องวงจรปิดจากจุดต่างๆ อยู่ และรับรู้มาว่าเป็นรถปอร์เช่สวมทะเบียน
“น้องเติ้ลเขาเพิ่งจะผ่านวันเกิดไปเมื่อวันที่ 9 มี.ค. ทั้ง 2 คนเป็นเพื่อนรักกัน ในคลิปเขาดูทรมานมากหลังถูกรถชน ส่วนน้องโอ๋ก็ต้องเสียลูกที่กำลังตั้งท้องได้ 2-3 เดือน ตอนนี้ก็ยังอาการสาหัสอยู่ในไอซียู รพ.ศิริราช น้องเขาไม่มีใคร เราก็ช่วยเลี้ยงเขามาตั้งแต่เล็ก และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าคนขับปอร์เช่เป็นใคร”
ทั้งนี้ ได้สอบถามไปยัง ร.ต.อ.ณพสกล ทองแสง พนักงานสอบสวน สน.หนองค้างพลู ให้สัมภาษณ์ว่า หลังลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุขณะนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมถึงตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดต่างๆ แต่ยังไม่ได้มีการพุดคุยหรือสอบปากคำผู้บาดเจ็บทั้ง 2 ฝ่าย เพราะฝ่ายหนึ่งก็อาการสาหัส ส่วนอีกฝ่ายที่เป็นคนขับปอร์เช่ทราบว่าขาหัก 2 ท่อน รักษาตัวอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่ง
ส่วนกรณีที่มีการกล่าวอ้างว่ารถปอร์เช่สวมทะเบียนก็ไม่ใช่เรื่องจริง เพราะมีประกันเข้ามาดำเนินการแล้ว รถที่เสียหายทุกคันก็ถูกนำมาจอดไว้ที่ สน.หนองค้างพลู สันนิษฐานว่าน่าจะขับมาด้วยความแล้วเหินสะพานเล็กที่มีความยาวเพียง 2-3 เมตร จนเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพราะจุดดังกล่าวเกิดอุบัจิเหตุมาแล้วหลายครั้ง และยังไม่ทราบว่ามีการดื่มก่อนขับหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวทางทีมข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
ข้อมูลจาก Thairath