เกาะติดข่าวดาราก่อนใคร

กดติดตาม “ทีวีพูล”

banner

ลุงชาวสุรินทร์ หึงเมียนั่งมาในรถ ทะเลาะกันตลอดทาง ก่อนพลั้งมือบีบคอตายคารถ ด้วยความตกใจ เอาศพไปขุดหลุมฝังไว้กลางสระแห้ง ก่อนหนีไปหาลูกชายที่ราชบุรี เล่าเรื่องให้ฟัง ลูกเลยกล่อมให้เข้ามอบตัว

วันที่ 8 มี.ค. พ.ต.ต.วิทวัฒน์ แก้วเหลา สารวัตร(สอบสวน) สภ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ ได้รับการประสานจากตำรวจ สภ.ราชบุรี จ.ราชบุรี ว่ามีชายชื่อ นายสมเดช (สงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี บ้านอยู่ ต.ตาตุ่ม อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้เข้ามอบตัวรับสารภาพว่าได้บีบคอฆ่า นางเมา (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปีภรรยา แล้วนำศพไปฝังดินไว้ใต้สระน้ำแห้งกลางทุ่งนา ท้ายหมู่บ้านท่ารุ่ง ต.ผักไหม อ.ศรีขรภูมิ จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.สมชาย คมพยัคฆ์ ผกก.สภ.ศีขรภูมิ ตำรวจฝ่ายสืบสวน หน่วยกู้ภัยสุรินทร์ จุดศีขรภูมิ และ อาสาสมาคม วีอาร์กู้ชีพสุรินทร์ จุดศรีณรงค์

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ เป็นสระน้ำกว้างสภาพใกล้แห้งขอด อยู่ห่างจากหมู่บ้าน 700 เมตร ก้นสระน้ำพบหน้าดินคล้ายกับมีการเพิ่งขุดและฝังกลบสิ่งของบางอย่าง เจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยค่อยๆขุดจนได้ความลึกประมาณ 1 เมตร ก็พบศพผู้หญิงถูกฝังสภาพศพเริ่มส่งกลิ่นเหม็น จึงรีบประสานแพทย์โรงพยาบาลสุรินทร์ เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อมแจ้งตำรวจพิสูจน์หลักฐานจว.สุรินทร์ เข้าเก็บพยานหลักฐาน ท่ามกลางสายตาชาวบ้านพากันมาดูพร้อมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความโหดร้าย

จากการสอบถาม นายสุรินทร์ แก้วสว่าง อายุ 52 ปี น้องชายผู้ก่อเหตุ เล่าว่า เวลาประมาณ สองทุ่มเศษ ก็มีพี่ชาย พี่เปี๊ยก ชื่อเล่น ได้ขับรถยนต์กระบะมาหาน้องสาว แต่ไม่ใช่บ้านหลังนี้ อยู่ที่ข้างในหมู่บ้าน ก็เลยบอกกับน้องสาวว่า “เอ้ย!กูฆ่าเมียกูตายแล้วเด้อ“ เมื่อน้องสาวได้ยินก็ตกใจ จนไม่กล้าไปดูที่รถว่ามีอะไร ที่รถพี่ชายจอดหลบอยู่ข้างทาง  เป็นรถกระบะ ยี่ห้อนิสสันตอนเดียวสีน้ำเงิน สักพักก็ขับรถออกไป น้องสาวก็รีบโทรศัพท์มาแจ้งตนว่า รถพี่ชายฆ่าเมียตายแล้ววิ่งไปทางโน้น ตนก็สงสัยว่าจะวิ่งออกไปดู แต่ก็ไม่กล้าไป ก็เลยรีบโทรศัพท์ไปหากำนันและผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านออกตรวจดูก็หาศพไม่เจอ สงสัยว่าเขาจะทิ้งลงหนองหรือฝังดิน หายังไงก็ไม่เจอจน ตี2 ก็เลยแยกย้ายกันกลับ

รุ่งเช้าเอาควายออกไปเลี้ยงผูกไว้ก็เดินตามหาอีก พอเวลาประมาณ 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ได้ประสานมายัง สภ.ศีขรภูมิ พี่ชายได้ไปมอบตัว พร้อมกับรับสารภาพว่าฆ่าภรรยาจริง โดยเอาศพไปฝังกลบไว้ภายในสระน้ำ ในที่นาของน้องสาว พอไปยังที่เกิดเหตุสักพักประมาณ 20 นาที เจ้าหน้าที่ตำรวจเต็มสระน้ำไปหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังไม่กล้าขุดกล้าอะไร ได้แต่ยืนดูและกันพื้นที่ เพื่อรอเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพกู้ภัยมาถึงก็ทำการขุดดิน สักพักก็เจอศพทันที สภาพศพมีการงอขา ตะแคงศีรษะ ชิ้นส่วนร่างกายอยู่ครบตามปกติ คาดเสียชีวิตมาแล้ว 2 วัน

ด้าน นางคำรุน แก้วสว่าง อายุ 48ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนคิดว่าพี่ชายน่าจะหึงหวงภรรยา ขนาดน้องสาวและลูกสาวบอกให้แกเลิก แกยังไม่ยอมเลิก ยังมาโกรธกับลูกสาวอีก เนื่องจากผู้ตาย ติดเหล้ามีพฤติกรรม คบชู้นอกใจสามีมาต่อเนื่อง จึงไม่อยากให้คบกับผู้หญิงคนนี้ พี่ชายมาเล่าให้ตนฟังว่า แกจับได้ว่าเมียมีชู้ แต่ตนไม่ได้เห็นก็ไม่รู้ว่าจริงเท็จขนาดไหน มาเล่าว่าเมียแกมีชู้แหละ แกถึงได้เป็นโรคหนองในแกก็ตีเมีย แกก็ไม่ใช่ผู้ชายส่ำสอน เค้นถามจากเมียสารภาพว่า 7 คน ในระยะเวลาแค่ 15 วัน ไปเอาหลานกับมาเลี้ยง


ขณะที่ตำรวจ สภ.ราชบุรี ได้รายงานการสอบสวน นายสมเดช แจ้งมายังตำรวจ สภ.ศีขรภูมิ ระบุว่า นายสมเดช รับสารภาพว่า ได้ทะเลาะกับผู้ตายอย่างรุนแรง เรื่องกลัวว่าเมียจะมีชู้ก่อนบีบคอเมียจนตายแล้วนำศพใส่ท้ายรถกระบะนำมาฝังดินไว้ จากนั้นขับรถไปจอดไว้ที่โรงพยาบาลสังขะ แล้วนั่งรถทัวร์เข้ากรุงเทพฯ เดินทางต่อมายังจ.ราชบุรีเพื่อมาหาลูกชาย จากนั้นได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ลูกชายฟัง ทำให้ลูกชายตกใจรีบพาพ่อเข้ามอบตัว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้ส่งตัวไปสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป