นายวิชิต รัฐรินทร์ อายุ 47 ปี ออกมาเรียกร้องขอความเป็นธรรมและถามถึงน้ำใจความเป็นเพื่อนมนุษย์ หลังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.สตึก แจ้งให้ชำระค่าไฟฟ้าประจำเดือน ส.ค.2560 ภายในวันที่ 6 ก.ย.60 มิฉะนั้นอาจถูกงดจ่ายไฟ แต่เนื่องจากติดธุระจึงไม่ได้เดินทางไปจ่ายตามกำหนด ประกอบกับที่ผ่านมาภรรยาเคยไปจ่ายค่าไฟในวันที่ 10 ของทุกเดือนก็ไม่เคยถูกตัดไฟ กระทั่งวันที่ 8 ก.ย. พอเสร็จธุระก็รีบเดินทางไปชำระเงินที่ กฟภ.สตึกตั้งแต่เช้าทันที จำนวน 1,475 บาท หลังจ่ายเสร็จก็เดินทางไปทำงานตามปกติ
นายวิชิต กล่าวต่อว่า กระทั่งเวลา 13.30 น.วันเดียวกัน มีพนักงานบริษัทที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการติดตั้งและตัดหม้อไฟ มาตัดหม้อไฟที่บ้านทั้งที่ภรรยาของตนนำใบเสร็จมาให้ดูเพื่อยืนยันว่าได้ชำระค่าไฟแล้วตั้งแต่เช้า ทั้งยังบอกกับพนักงานคนดังกล่าวด้วยว่ามีแม่อายุ 89 ปี นอนป่วยด้วยโรคชราอยู่ในบ้านต้องเปิดพัดลมสลับกับเครื่องปรับอาการให้ตลอดเวลา เพื่อคลายความร้อน ประกอบกับแม่พึ่งหยุดใช้เครื่องช่วยหายใจได้ไม่นาน แต่พนักงานคนดังกล่าวไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ อ้างแต่ว่าได้รับคำสั่งจากบริษัทมาแล้วจำเป็นต้องตัด ทำให้เกิดความไม่พอใจในการทำหน้าที่ทั้งของการไฟฟ้า และบริษัทที่รับตัดหม้อ เพราะตนไปจ่ายค่าไฟตั้งแต่เช้าและเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปนานกว่า 5 ชั่วโมง ทำไม กฟภ.ไม่ประสานกับทางพนักงานว่าบ้านหลังนี้จ่ายค่าไฟแล้ว ทำไมยังต้องมาตัดหม้ออีก ซึ่งหลังจากที่ถูกตัดไฟตนก็นำในเสร็จไปยืนยันที่ กฟภ.ทางพนักงานจึงยอมมาติดตั้งหม้อให้คืนในตอนเย็น
“ยอมรับว่าตัวเองไปจ่ายค่าไฟไม่ทันตามกำหนดที่ กฟภ.แจ้งมา แต่หากถูกตัดไฟตั้งแต่วันที่ 6 ก.ย.ก็คงไม่ติดใจ ส่วนที่พนักงานอ้างว่าเป็นระเบียบนั้นก็เข้าใจ แต่ในเมื่อมีใบเสร็จยืนยันแล้วทำไมไม่สอบถามไปทาง กฟภ. และหากวันนั้นแม่ตนต้องยังใส่อ๊อกซิเจนช่วยหายใจอยู่แล้วถูกตัดไฟจะเกิดอะไรขึ้น จึงอยากถามถึงน้ำใจเพื่อนมนุษย์บ้าง และอยากฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องได้ปรับปรุงระบบให้ดีขึ้นกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก” ผู้รับเหมาบุรีรัมย์ ตั้งคำถามถึงการทำงานของหน่วยงานรัฐ
Cr. ข่าวสด