การใช้โทรศัพท์มือถือเป็นเวลานานๆ ส่งผลเสียต่อดวงตาโดยตรง เช่นเดียวกับ หญิงวัย 25 ปี รายนี้ เธอทำร้ายดวงตาของเธอเองอย่างที่ไม่รู้ตัวมานานตลอด 2 นั่นเป็นเพราะว่า เธอเปิดแสงสว่างของหน้าจอโทรศัพท์ให้สว่างสุดตลอด
เว็บไซต์เวิลด์ออฟบัซ หยิบเรื่องนี้มานำเสนอเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 เผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ไต้หวัน สาวสกุลเฉิน มีอาชีพเป็นเลขานุการ ด้วยลักษณะงานของเธอจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์มือถือเกือบตลอดเวลา เนื่องจากหัวหน้าของเธอต้องการให้เธอตอบข้อความโดยทันที นอกจากนี้ เธอยังต้องทำงานนอกสถานที่ และเมื่ออยู่กลางแดด ทำให้เธอจำเป็นต้องปรับแสงหน้าจอโทรศัพท์มือถือให้สว่างสุดเพื่อให้มองเห็นได้ชัด
ทว่า ภายหลังจากที่เธอกลับเข้ามาทำงานในร่ม เธอก็ลืมปรับแสงสว่างหน้าจอให้ต่ำลงมา เป็นเช่นนี้บ่อยครั้งจนกลายเป็นความเคยชิน โดยที่เธอไม่รู้ตัวว่า เธอได้ทำร้ายดวงตาไปทุก ๆ วัน ไม่เพียงเท่านั้น ต้นเหตุยังเกิดพฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเธอ โดยในตอนกลางคืน เธอมักจะปิดไฟในห้องนอน แล้วเปิดโทรศัพท์มือถือดูซีรีส์ด้วยแสงสว่างแบบที่ไม่เคยปรับระดับให้ต่ำลงมาเลย
วันเวลาผ่านไป 2 ปี กระทั่งเมื่อเดือนมีนาคม 2561 เฉินเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติกับดวงตา ในตอนแรกเธอพยายามบรรเทาความไม่สบายตาด้วยการใช้น้ำตาเทียม แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก จากนั้นอาการก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้น 4 เดือนต่อมา เธอเกิดภาวะตาแดงก่ำ พร้อมอาการปวด
เฉิน ตัดสินใจเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ภายหลังจากการตรวจเช็ก แพทย์บอกว่า มีเลือดคั่งที่บริเวณกระจกตาซ้าย และค่าการมองเห็นเหลือเพียง 0.6 ในขณะที่ดวงตาข้างขวา ค่ามองเห็นเหลืออยู่เพียงแค่ 0.3 พร้อมทั้งพบว่า มีรูเกิดขึ้นที่กระจกตามากกว่า 500 รู แพทย์ได้รักษาด้วยการใช้ยากลุ่มสเตียรอยด์ส ซึ่งให้การตอบสนอง หลังจากผ่านไป 3 วันอาการของเธอก็เริ่มดีขึ้น
จักษุแพทย์ผู้ให้การรักษาเฉิน เปิดเผยว่า จอโทรศัพท์ของเธอปล่อยแสงสว่างออกมา 625 ลูเมน (หน่วยที่ใช้วัดกำลังของความสว่าง) ซึ่งมากกว่าระดับที่แนะนำถึง 300 ลูเมน “การใช้โทรศัพท์มือถือในความสว่างเท่านี้มากกว่า 2 ชั่วโมง หมายถึง ดวงตาจะได้รับผลกระทบเสมือนกับถูกอบอยู่ในไมโครเวฟ” จักษุแพทย์ กล่าว ทั้งนี้ แนะนำว่าไม่ควรปิดไฟเล่นโทรศัพท์ในที่มืด และปรับแสงสว่างหน้าจอให้อยู่ที่เพียง 250 ลูเมน ก็สามารถช่วยลดอาการเมื่อยล้าทางสายตาได้